ตอนที่ 3
6 เดือนผ่านไป
ตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้8เดือนกว่าแล้ว กำหนดคลอดคือสัปดาห์หน้า เรื่องที่ฉันท้องเพื่อนของฉันพวกมันยังไม่รู้เรื่องนี้และฉันก็ไม่คิดจะบอกพวกมันด้วย เชื่อเถอะว่าถ้าเกิดฉันบอกพวกมันไปพวกมันต้องเอาเงินมาให้ฉันแน่นอน ฉันไม่อยากรบกวนพวกมัน ตอนนี้ที่ฉันได้ข่าวเพื่อนๆ ของฉันเริ่มตั้งครรภ์กันแล้ว ป่านนี้พวกมันคงโกรธฉันตายแล้วมั้งงานแต่งของพวกมันฉันก็ไม่ได้ไป ฉันอยากจะไปนะแต่ดูที่ๆพวกนางอยู่แต่ละคนสิ คนนึงอยู่เชียงใหม่คนนึงอยู่เกาหลีอีกคนนึงอยู่สงขลาที่ไกลๆทั้งนั้น
"ลูกจ๋าเราจะได้เจอกันแล้วนะ"
ระยะเวลาที่ผ่านมาฉันรับงานมาทำที่ห้องตลอดทั้งพับถุง เย็บผ้า ฉันคิดว่าฉันจะหางานทำอีกที ตอนที่ลูกของฉันเริ่มโตเพราะไม่มีคนดูแลลูกฉันเลยไปทำงานไม่ได้ โชคดีหน่อยที่ว่างๆฉันนั่งแต่งนิยายแล้วส่งสำนักพิมพ์ไม่คิดว่าจะได้ตีพิมพ์
ตอนนี้งานหลักของฉันคือแต่งนิยายส่งสำนักพิมพ์ รายได้ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว ฉันแต่งส่งไปตีพิมพ์หลายเรื่องแล้วตอนนี้ฉันพยายามเก็บเงินไว้ให้เจ้าแฝดทั้งสองให้มากที่สุดอะไรประหยัดได้ก็ประหยัดเอา
ส่วนพ่อของเจ้าแฝดนะหรอ เมื่อหลายเดือนก่อนฉันตัดสินใจสืบว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร
เค้ามีชื่อว่า'ศิวกร บดินทร์เดชาโชติ'ชื่อเล่นของเค้าคือ'มาวิน'
ประวัติเค้าไม่ธรรมดาเลยจริงๆเป็นถึงมาเฟียใหญ่มีธุรกิจมากกว่า50กิจการเป็นมาเฟียที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็คงจริงอย่างที่เค้าล่ำลือ
ตอนนี้เค้าก็ยังเป็นมาเฟียอยู่เพิ่มเติมคือแผ่อำนาจมากขึ้น ฉันนับถือเค้าจริงๆคนอะไรหล่อไม่มีที่ติแถมยังคุมคนเป็นพันได้อีกเท่ห์ชะมัด
"เอ๊ะ! แล้วฉันจะไปชมเค้าทำไม"
เฮ้อ~~~
เรื่องคืนนั้นฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรแล้วล่ะ เพราะคืนนั้นฉันก็มีส่วนผิด ผิดที่ไปชนเค้าไงผิดที่ไปดื่มไอ้ไวน์บ้าๆนั่น
แต่ก็ช่างเถอะต้องขอบคุณเค้านะที่มอบเจ้าแฝดให้ฉัน ฉันรักเจ้าแฝดมากฉันหวังว่าลูกฉันจะได้ความหล่อมาจากเค้าบ้างนะ
อ่อ! ลืมบอกไปฉันไปซาวด์มาแล้วลูกฉันเป็นแฝดชายหญิงคงต้องมาลุ้นกันแล้วล่ะว่าใครจะเกิดก่อนชายหรือว่าหญิง
แต่สิ่งที่ฉันกังวลหลังคลอดนั่นก็คือเจ้าแฝดจะซนมั๊ยเพราะฉันเลี้ยงคนเดียวกว่าร่างกายฉันจะฟื้นตัวอีก แต่ยังไงฉันก็ต้องสู้
1 สัปดาห์ผ่านไป
โรงพยาบาล
วันนี้ฉันมาตามนัดของคุณหมอ ฉันเริ่มจะอึดอัดทนไม่ไหวแล้วท้องของฉันใหญ่ขึ้นมาก จากที่ฉันเป็นคนตัวอ้วนอยู่แล้วพอมีลูกแฝดยิ่งอ้วนเข้าไปใหญ่จากก่อนท้องหนัก70ตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาปาเข้าไปเกือบจะ90แล้วไปให้สุดแล้วหยุดที่100เลยลูก
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
"เป็นไงบ้างครับ"หมอเริ่มซักถามอาการต่างๆ ฉันก็บอกอาการต่างๆให้หมอฟัง
"โอ๊ย! หมอ"
อยู่ก็รู้สึกเหมือนอะไรแตก
"ตัวน้อยอยากออกมาแล้วสินะ เชิญครับ"บุรุษพยาบาลเข้ามาช่วยพาฉันไปที่เตียงคลอด
ฉันเลือกคลอดแบบธรรมชาติ ตอนแรกคุณหมอไม่แนะนำเพราะมีความเสี่ยงแต่เนื่องด้วยลูกของฉันอยู่ในท่าที่สมบูรณ์ก็เลยคลอดแบบธรรมชาติได้ ในตอนนี้ฉันรู้สึกใจหวิวๆอยากให้มีคนรออยู่ด้านนอกห้องจังแล้วใครล่ะ ฉันหวังอะไรอยู่
"คุณแม่พร้อมนะครับ"
"ค่ะ"
เริ่มเข้าสู่กระบวนการทำคลอด ฉันอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเลยจริงๆมันเจ็บไปหมดเจ็บจนทนไม่ไหว แต่เป็นเจ็บที่แลกมากับความสุข
"อุแว้ อุแว้"
เสียงร้องช่างไพเราะเหลือเกินลูกแม่
"คนแรกเป็นผู้ชายนะครับ"
หึ ดูแลน้องสาวด้วยนะพี่ชาย
"อุแว้ อุแว้"
เสียงเจ้าตัวน้อยร้องขึ้นมาอีกคน
"คนน้องผู้หญิง"
"ยินดีด้วยนะครับคุณแม่"คุณหมอเดินเข้ามาหาฉัน นางพยาบาลก็พาเจ้าแฝดมาให้ฉันอุ้ม
ผิวขาวอมชมพูเชียวลูกแม่
"เด็กผู้ชายชื่ออะไรคะ"นางพยาบาลถาม
"ศิวกันต์ ภักดีวิริยสกุลค่ะ"
"น้องผู้หญิงละคะ"
"ศิวกานต์ ภักดีวิริยสกุลค่ะ"
"คุณแม่พักผ่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวบุรุษพยาบาลจะพาคุณแม่ไปพัก แล้วเดี๋ยวจะเอาน้องตามไปให้นะครับ"
"ขอบคุณมากนะคะหมอ"
"ครับผม"
สงสัยกันมั๊ยว่าที่มาของลูกฉันมาจากไหน พ่อเค้าชื่อศิวกรอย่างน้อยก็มีแค่ชื่อนี่แหละที่พอจะให้ได้ ฉันตั้งชื่อลูกให้คล้ายกับชื่อจริงของเค้า
ส่วนชื่อเล่นคนพี่ชื่อเอสแปลว่าที่หนึ่ง
ส่วนคนน้องชื่อลิลลี่เพราะฉันชอบดอกลิลลี่
วันเวลาผ่านไป
สี่ ห้าเดือนแรกฉันเลี้ยงเจ้าแฝดด้วยความยากลำบากเพราะฉันเลี้ยงคนเดียวเวลาให้นมต้องให้พร้อมๆกันอุ้มให้ดูดนมแต่ละทีฉันก็กลัวจะทำลูกตกตลอด
สภาพฉันตอนนี้เหมือนยัยป้ามาก หลังจากคลอดฉันก็ปล่อยตัวเองมากไหนจะน้ำหนักที่ค้างจากหลังคลอดอีก
เห้อ~~~
ขนาดฉันไม่มีอะไรจะกินอยู่แล้วนะยังอ้วนอีกชาตินี้ฉันจะผอมเหมือนคนอื่นมั๊ยเนี่ย น้ำหนักฉันตอนนี้คือ80กิโล หลังจากคลอดเจ้าแฝดน้ำหนักหายไปแค่10กิโลเอง
"แอ้ๆ "ร้องอีกแล้วค่ะ
พอคนพี่หยุดคนน้องร้องต่อทันที ให้มันได้อย่างนี้สิลูก
"ลิลลี่~~~ร้องทำไมคะ หิวหรอหือ? "
"แอ้"หึ ยิ้มได้เลยนะ
ที่จริงลิลลี่ไม่ได้หิวหรอกแค่อยากเล่นเฉยๆ
ฉันมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกทุกคน ลิลลี่ตอนเกิดน้ำหนักน้อยต้องเข้าตู้อบ เธอตัวเล็กสุขภาพเลยไม่ค่อยดี ป่วยง่ายต่างจากคนพี่ที่แข็งแรงสมบูรณ์
"นอนนะคะคนเก่งของแม่ แม่ง่วงแล้ว"
"แอ้ๆ "
ฉันล้มตัวนอนลงบนฟูกแข็งๆ แล้วใช้พัดพัดให้ลูกน้อยทั้งสอง พัดลมเพิ่งจะเสียไปเมื่อวันก่อนฉันยังไม่ได้เอาไปซ้อม ก็ต้องทนร้อนกันต่อไป
"แม่รักหนูทั้งสองมากนะ"
"แอ้ๆ "
"แอ้ๆ "
"ยังไม่นอนอีก เดี๋ยวแม่งอนแล้วนะ"ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กทั้งสองจะฟังฉันรู้เรื่อง ฮ่าๆเป็นแบบนี้ทุกวันคงจะดีสินะ
ว่านอนสอนง่าย
4 ปีผ่านไป
1/xx/2561
"แม่จ๋า หนูอยากกินไอติม"ลิลลี่ลูกน้อยของฉันสะกิดเรียกทันทีที่เดินผ่านร้านไอติม
"หนูไม่สบายอยู่ไว้กินวันหลังนะคะ"
"ค่ะ"
"ดีมากค่ะคนเก่งของแม่"ลูกๆของฉันถึงแม้ตอนเล็กๆจะซนไม่ฟังที่ฉันพูด แต่พอโตขึ้นมากับกลับกันเด็กๆว่านอนสอนง่ายมากทั้งเอสและลิลลี่
"แม่ครับผมอยากไปโรงเรียนครับ"
พอเข้ามาในห้องพักเอสก็พูดขึ้นมา
ห้องพักที่ฉันอยู่คือห้องเดียวกับที่ฉันอยู่เมื่อ4ปีที่แล้ว ฉันไม่เคยไปไหนฉันอยู่ที่นี่มาตลอดที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกซะจากมีของเล่นกับพวกเสื้อผ้าของลูกๆที่เพิ่มเข้ามา
"อยากไปโรงเรียนหรอคะ แล้วลิลลี่ล่ะอยากไปโรงเรียนมั๊ย"
"อยากค่ะหนูอยากมีเพื่อน"คำพูดของลิลลี่ทำเอาฉันจุก ตลอดเวลาที่ลูกๆเติบโตขึ้นมานานทีจะได้ออกจากห้องสี่เหลี่ยมนี้พวกเค้าจึงไม่มีเพื่อน โชคดีหน่อยที่มีกันสองคน
"งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่พาไปสมัครเรียนดีมั๊ยคะ"
"ดีค่ะ รักแม่ที่สุดเลย"
ลิลลี่กับเอสวิ่งเข้ามากอดฉัน
"แม่ก็รักหนูทั้งสองที่สุดเลยค่ะ"
มาแล้วจร้า วันนี้มากันสองตอนรวดเลย หวังว่าจะชอบกันนะคะ
ตอนหน้าพระเอกของเราจะโผล่มาแล้วนะคะ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์ให้ดาวกดคอมเม้นกันด้วยะคะ