**"เป็นอะไร...มองหน้ากูอย่างกัเป็นคนผลักมึงตกนํ้าอย่างงั้นแหละ"**
"ถึงมึงไม่เป็นคนผลักกู...กูก็เกือบตายเพราะมึงนั่นแหละ...ไม่ต้องเสือกยิ้มด้วย..เหอะ!"
ร่างกายที่กำลังสั่นเท่าด้วยความหนาวและความหวาดหวั่นยงคงแสดงให้เห็นยกเว้นเสียแต่ปากสีเชอร์รี่ที่ด่าได้ร้อนแรงจริงๆ
"รอแป๊ปนะ...เดี๋ยวมา"
ทันทีที่ผมนึกขึ้นได้คงเป็นเพราะความผิดผมเอง(มั้ง)ที่ดันชวนคนว่ายนํ้าไม่เป็นอย่างไอ้แว่นไปเล่นนํ้าที่สระด้านบน ใครจะไปรู้กันละว่าปากดีๆของมันจะเก่งแต่ใช้คำพูด
ผมเดินเข้าครัวอย่างแน่วแน่พลางเปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบมาทำอาหารรองท้อฃให้ไอ้แว่นมันที่กำลังนั่งสั่นระริกอยู่ในห้องนั่งเล่น
ทำไมกันคนอย่างผมถึงมาตามติดไอ้แว่นนี่น่ะหรอ ผมเองก็ไม่รู้เหมืินกันรูแค่ว่าอยากจะรุกเข้าหามันหนักๆให้มันหลงผมจนโงหัวไม่ขึ้น จะว่าตอนนี้ผมอาจจะเป็นคนมี่กำลังหลงมันอยู่ก็ได้
"ทำไรอ่ะ"
"ทำกับข้าวรอฃท้องให้มึงกินไง..เห็นเพลียๆ"
สิ่งที่ผมทำนั่นก็คือข้าวต้มสามัญชนธรรมดาๆทั่วไปนี่แหละไม่ได้เวอร์วังอะไรมาก กะอีแค่ข้าวต้มที่คนอย่างผมก็ทำได้
ร่างบางที่ดูจะเพลียๆยืนพิงที่ตู้เย็นที่อยู่ด้านข้างคงไม่แปลกใจที่จะมองผมด้วยสายตาสงสัย
"มีอะไรก็ถามมา..จ้องทำไมนักหนา"
"ไหนมึงบอกทำกับข้าวไม่เป็น..โม้อีกละ"
"กูใช้ว่าจะไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะ...ระดับกู..เสียใจด้วยพอดีแม่กูก็สอนมา..หึ"
ผมแผ่รังสีความหลงตัวเองซะซัดกระจายไปทั่วทุกอณูเล่นเอาไอ้แว่นร่างบางถึงกับเบะปากใส่ ผมที่ดูข้าวต้มกำลังเดือดปุดๆพอได้ที่ก่อนจะปิดแก็สและตักข้าวต้มใส่จานทันที
"อ่ะ..กินให้หมดด้วยละ..กินยาลดไข้เพื่อด้วย..ตัวมึงร้อนๆเหมือนจะไม่สบาย"
"เออ..แต่กูจะแดกได้รึเปล่าข้าวต้มมึงอ่ะ"
"อย่างน้อยๆกูคงไม่ใส่แมลงสาบลงไปด้วยหรอก..แดกๆไปซะ..จะได้แดกยา"
ผมนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามของมันอีกฝั่งก่อนจะมองมือเรียวที่กำลังหยิบช้อนและพลางตักข้าวต้มเข้าปาก
"อื้ม...ก็พอใช้ได้นะเนี้ย..นึกว่ามึงจะง่อยทำกับข้าวไม่เป็นซะละ"
"หึ..ระดับกูจะมีอะไรที่ทำไม่ได้"
มันพลางเบะปากและกินข้าวต้มฝีมือผมต่อไป ผมเองก็ไม่ได้ไปไหนนั่งเฝ้าดูมันกินข้าวต้มอยู่เรื่อยๆ
ถ้าจะให้พูดถึงไอ้แว่นคนนี้กับไอ้ร่านคนนั้นดูยังไงก็เหมือนจะแตกต่าง ทำไมผมถึงแยกไม่ออกตั้งแต่แรกกันนะตอนนี้อยู่มหาลัยตอนที่เอามันในห้องเรียน พอแยกแยะว่ามันเหมือนกันคงจะไม่ใช่แฝดเพื่อนมันแน่ๆก็ตอนที่อยู่ทะเล
แววตาและเสียงครางกระเส่าที่ไม่ต่างกันแม้แต่นิด พอสัมผัสไว้ว่าจะส่วนไหนก็ตามร่างบางก็จะเม้มปากพลางกลั้นเสียงไว้ ด้วยเหตุนี้ทุกๆข้อที่ผมสงสัยมาที่แรกกะจะกั๊กไว้ก่อนแต่พอในวันเดียวกันกลับเห็นมีรุ่นพี่มาจีบมัน ถ้าผมไม่เข้าไปแทรกซะก่อนมันจะตอบตกลงรึเปล่า
"อืม..อิ่มแล้วละ..ว่าแต่เห็นยากูมั้ย..กูว่ากูถือมาด้วยนะ"
"เดี๋ยวเอาถ้วยไปเก็บให้..เดี๋ยวจะหายาให้ด้วย"
ผมลุกขึ้นและรีบเอื้อมมือไปหยิบชามก่อนจะเอาไปเก็บและล้างควํ่าไว้อย่างดี ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแผลงยาบนตู้เย็นที่ว่างไว้
(จบ เสือใหญ่พาท)
.
.
.
.
.
"อ่ะยา..นี่นํ้า"
"อืม...ขอบใจ"
ผมยืนมือรับเม็ดยากลมๆสีขาวที่ต้องกินดักไข้ไว้ไม่ให้มันเป็นก่อนจะเอาใส่ปากและตามด้วยนํ้าที่หยิบมาแล้วกระดกเข้าปากทันที
"อึก..อืมม.."
"จะนอนเลยมั้ย...หรือจะดูหนังก่อน"
"อยากดูหนัง..กูขอดูหนังก่อน"
ผมพลางยันตัวลุกขึ้นและรีบเดินออกมาจากห้องครัวทันทีโดยฝากไอ้เถื่อนช่วยเก็บนู่นนี่เล็กน้อย ผมไม่รีรอเปิดทีวีและกดรีโมทรอรายการโปรดทันที
"รอดูอะไรอ่ะ..ดึกแล้วนะ"
"อะไร..พึ่งจะสามทุ่มกว่าๆเอง..ขอดูหนังก่อนเนี่ย...ช่องนี้หนังสนุก"
ผมเพ่งเล็งสายตามองแต่หนังที่กำลังฉายขึ้นมาโดยมีไอ้เถื่อนค่อยๆนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันผมก่อนมันจะใช้ตักผมเป็นหมอนรองหนุนซะงั้น
"หมอนก็มี..จะมานอนตักกูเพื่อ?"
"ไม่รู้..แต่ชอบนิ..ปกติอยู่บ้านนอนตักแม่บ่อยจะตาย"
"มึงขาดแม่ไม่ได้แบบนี้ก็แย่ดิ...แล้วจะมาอยู่กับกูเพื่ออะไร"
"ก็อยากติดเมียมากกว่าแม่หน่อยสิ..ตั้งแต่เด็กก็ติดแม่เยอะและ..โตมาก็ขอติดเมียอย่างมึงบ้าง"
"มโน!"
ผมพูดได้แค่คำๆเดียวเพราะไม่รู้จะเอาอะไรตอกหน้าไอ้พวกที่หมั่นหน้าขนาดนี้ได้แล้ว
ในขณะที่สายตาผมก็มองทีวีตัวมันเองก็นอนตะแคงมองทีวีเหมือนกัน ผมที่ชอบสังเกตคนก็เป็นเรื่องละที่นี้ผมเพ่งมองคอของมันที่มีรอยกัดเด่นชัดที่ยังไม่จางหาย
ผมรื้อความจำขึ้นมาทันทีตอนที่ผมมันเขี้ยวและกัดคอมันไปแรงระดับนึงแต่ไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นเป็นรอยฟันและเริ่มชํ้านิดๆ
"ทายารึยัง?"
"หมายถึงอะไร?"
"ที่คอน่ะ..มึงไม่คิดจะทายาบ้างหรอ"
"ไม่อ่ะ...คนอื่นเห็นจะได้รู้ว่ากูมีเจ้าของแล้ว..ตัวมึงก็ด้วย"
"เออกูเห็นแล้ว..ตาไม่ได้บอด"
แทนที่มันจะกลัวว่าคนอื่นเค้าเห็นหรือรู้กันแต่มันกลับบอกว่าดีแล้ว แต่ผมนี่สิทั้งตัวรอยเยอะกว่ามันอีกดีที่มันไม่เน้นทำตรงช่วงคอ
"เออ..แม่ฝากมาบอกมึงด้วยแหละ"
"ฝากมาบอกกู..แม่มึงอ่ะนะ"
"เออ...เค้าบอกว่าทำไมรุนแรงกับแฟนจัง..บอกทีหลังให้เพลาๆลงหน่อย..ไม่ต้องหวงปานนั้น"
"เออ!..กูเข้าใจและ"
นี่แม่มันก็เป็นไปกับไอ้ลูกชายตัวดีของเค้าด้วยว่ะเห้ย ใบหน้าที่หน้าตาหน้ารักราวกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าคือแม่ของไอ้เถื่อนก็ผุดขึ้นมาทันที เหอะ!ๆ ขอบคุณมากครับที่เป็นห่วง...
"เห้อออ!"
"เป็นไร...ปรึกษากูได้นะ..กูคุยง่ายสบายๆ"
"หึ...ใครมันอยากจะปรึกษาไอ้คนที่เกือบพากูตายแล้วมั้ยละ..เหอะ!"
"อุบัติเหตุครับเมีย..ผัวก็ช่วยนิ..ดีกว่าปล่อยจมนอนอยู่ใต้สระนะ"
"เออ..ถ้ามึงไม่ช่วยกูคงตาย..ขอบพระคุณอย่างสูงนะ"
ผมกัดฟันพูดพลางคิดยํ้าไปยํ้ามาว่าถ้าอยู่กับมันจริงๆคงจะไม่พาผมไปตายหรอกนะ นี่แค่วันแรกผมก็เกือบนอนแช่อยู่ใต้สระแล้ว
จากความคิดที่ซีเรียสจู่ๆภาพในสมองก็ผุดขึ้นมาตอนที่มันแบ่งอากาศให้ผมตอนที่กำลังจมนํ้า ริมฝีปากที่ประกบกันอย่างแนบชิดผมเอาปลายนิ้วแตะเบาๆมันก็ร้อนวูบขึ้นมาทันที
"ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก..กูไม่ปล่อยให้มึงเป็นอันตรายแน่ๆ"
"อืม..ง่วงแล้วละ..พรุ่งนี้ไปเรียนแต่เช้าอีก...ฮ้าววววว!"
ผมอ้าปากห้าววอดๆก่อนจะเดินไปปิดทีวีและปิดไฟภายในห้องทุกดวง และเดินเข้าห้องนอนพร้อมๆกับไอ้เถื่อน
ผมเริ่มงัวเงียและอยากจะรีบนอนให้เต็มอิ่มบนเตียงนุ่มๆไม่รีนอผมกระโดดขึ้นไปแต่นอนทันที ด้านข้างก็ยังคงเว้นที่สำหรับอีกคนไว้
"ปิดไฟแล้วนะ"
"อื้อ"
ผมพลางอือๆออๆในลำคอก่อนไอ้เถื่อนจะปิดไฟและค่อยๆขึ้นมานอนข้างๆ
ผมนอนตะแคงข้างโดยหันหลังให้มัน จู่ๆแผ่นหลังที่รู้สึกเว้งว้างมานานก็เริ่มอุ่นขึ้นจนไม่รู้สึกอะไร ผมรู้แค่ว่ามันอบอุ่นและดีที่ไม่เว้งว้างแบบที่เคยรู้สึก พอรู้ตัวอีกที่ก็รู้ว่าไอ้เถื่อนมันนอนกอดผมจากด้านหลัง
"อืออออ...มันร้อนอ่ะ"
"ชู่วว!..นอนเถอะเด็กดี..เปิดแอร์ตํ่าไปไม่ดีนะ..นอนเถอะ"
เสียงกระซิบเบาๆที่ใบหูก่อนผมจะเริ่มเข้าสู่วังวลของการหลับไหล แต่ทว่าการหลับแบบรู้สึกดีของผมครั้งแรกคุณจะคิดว่ายังไง ลมหายใจที่กำลังรดต้นคอแต่เข้าออกเป็นจังหวะบวกกับอุณภูมิในห้องที่พอเหมาะที่เวลากอดแล้วจะรู้สึกอุ่น
สำหรับผมแล้วครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมนอนหลับแบบไม่เว้งว้าง กลับรู้สึกอุ่นใจซะอีกที่มีคนมากอดแบบนี้ แล้วจะเป็นจะเฉพาะไอ้เถื่อนรึเปล่าที่ผมรู้สึกดี เวลานี้ใช่ที่จะมาหาคำตอบกันหรอ ผมง่วงแล้วละ ฝันดีครับทุกคน...
ติดตามตอนต่อไป