​

            [ผ่านด่านสำเร็จแล้ว กำลังคำนวณรางวัล]

            [ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ: 1500 เหรียญเกม: 15000]

           [ไอเทม/สิ่งของที่ได้รับ: ดวงตาแห่งความแค้น ปืน M1911A1 มีดทำครัวตะวันตก ไม้เบสบอล ไฟฉาย*2]

            [ภารกิจที่รับ/สำเร็จ : 5/5]

            [รางวัลพิเศษ: รางวัลจากเจ้าแห่งกาลเวลา กรุณารับภายหลัง]

            [สำเร็จภารกิจพิเศษ ภารกิจลับ: 0 ปลดล็อกโลกทัศน์: วงแหวนแห่งเวลา]

            [ค่าความสยองถูกกระตุ้น: 0 ครั้ง ค่าความสยองสูงสุด: 0% ค่าความสยองเฉลี่ย: 0%]

            [ค่าทักษะ: 300]

            [ค่าประสบการณ์เพิ่มค่าทักษะ: 3000 เหรียญ: 30000]

            [รางวัลผ่านด่าน: 80% ประสบการณ์พื้นฐานเพิ่มขึ้น: 1200]

            [คำนวณเสร็จสิ้น กรุณาดำเนินการต่อ]

            (เนื้อหาการคำนวณนี้ถือเป็นตัวอย่างคำอธิบายข้อกำหนดก่อนหน้านี้ : ในกระบอกไฟฉายมีถ่าน ในปืนมีลูกกระสุน ของเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นไอเทมชั้นยอดแบบสิ้นเปลือง หากใส่ไว้ในอุปกรณ์หรือในไอเทมก็จะไม่กินพื้นที่ช่องในกระเป๋า คีมหนีบไม่ถือเป็นไอเทมในโครงเรื่อง ไม่นับ ดังนั้น ไอเทมประเภทนี้จะไม่ปรากฎอยู่ในช่องรายการคำนวณ)

            “รางวัลปลดล็อกโลกทัศน์ดูโอเว่อร์มากเลย ......” เฟิงปู้เจวี๋ยคิดในใจ “หากไม่นับ 240 แต้มนั้น ในด่านทั้งหมดฉันเพิ่งจะได้ค่าทักษะแค่ 60 แต้มเอง”

            “พี่เจวี๋ย! รวยแล้ว!” หวังทั่นจือพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดขีดเมื่อเห็นตารางของทีม “ฉันอัพเกรดไปจนเลเวลสิบเลยนะเนี่ย! ได้เหรียญมาตั้งสองหมื่น!”

            หลังจากที่เฟิงปู้เจวี๋ยฟังจบ เขาก็คิดคำนวณออกมาได้ทันทีว่าค่าทักษะที่เสี่ยวทั่นได้รับนั้นน่าจะมากกว่าหกสิบไม่เกินร้อยห้าสิบแน่นอน เขากล่าวว่า : “เห็นแล้ว ในตารางทีมมันมีแสดงเลเวลอยู่” เขาเองก็เห็นคำขอเพิ่มเพื่อนที่หลงอ้าวหมินส่งเข้ามา เขากดยอมรับแล้วกล่าวว่า “อย่าลืมเพิ่มพี่หลงเป็นเพื่อนด้วยละ”

            “อืม ฉันตอบรับแล้วละ” หวังทั่นจือกล่าว “นายดึงเขาเข้ามาสิ”

            เพียงไม่กี่ขั้นตอน เสียงของหลงอ้าวหมินก็ดังขึ้น : “โห......เลเวลนายสองขึ้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวเลยนี่น้องเฟิ่งเพิ่มเป็นเลเวล 11 เลยนี่นา” ในตอนนี้เขาและเฟิงปู้เจวี๋ยมีเลเวลสิบเอ็ดเท่ากัน

            ต้องมีคนสงสัยและตั้งคำถามแน่ๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้? งั้นเรามาดูรายละเอียดตัวละครของเฟิงปู้เจวี๋ยกัน :

            ชื่อในเกม : เฟิ่งปู้เจวี๋ย เลเวล 11 ค่าประสบการณ์ : 1350/11000

            ค่าทักษะ : 430 เหรียญ : 51500

            ความชำนาญ : F ทั่วไป อาวุธ F สืบสวน F ต่อสู้ F การยิงไกล F

       กระเป๋า 7/10 : คีมหนีบมาริโอ้ ดวงตาแห่งความแค้น มีดครัวตะวันตก ไม้เบสบอล ไฟฉาย*2 ปืน M1911A1

            พื้นที่ล็อกอิน 1/30 : แผ่นจิ๊กซอว์ : ลิง

            ทุกคนคงเห็นค่าประสบการณ์ของเขาแล้วใช่ไหม ไม่ผิด จากเลเวล 1 ไป เลเวล 2 ต้องมี 11000 แต้ม ไม่ใช่ 1100 ในการเพิ่มขึ้นของค่าประสบการณ์ในเกมสวนสนุกสยองขวัญทุกๆ สิบเลเวลจะมีการเปลี่ยนแปลงไปแบบขั้นบันไดหนึ่งครั้ง จากเลเวล 1 ไป เลเวล 2 ต้องมี 100 แต้ม ส่วนเลเวล 2 ไปเลเวล 3 ใช้ 200 แต้ม จากเลเวล 10 ไป เลเวล 11 ใช้ 1000 เมื่อผู้เล่นมีเลเวล 11 แล้ว ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนตกตะลึงอย่างแน่นอน

            หลงอ้าวหมินนอกจากจะได้รับประสบการณ์ 1500 แต้มและรางวัลพิเศษอีก 1200 แต้มแล้ว ยังมีค่าทักษะอีกร้อยเจ็บสิบแต้ม (เป็นค่าทักษะที่สะสมขณะต่อสู้) ซึ่งหลังจากผ่านด่านและคำนวนแล้วเขาก็ได้ค่าประสบการณ์ประมาณสี่พันห้าร้อยแต้ม แต่เมื่อเขาอัพเกรดมาจนเลเวล 11 เขาก็ต้องตกใจเพราะมันยังขาดอีกราวเจ็ดพันแปดร้อยแต้มกว่าจะอัพเกรดเป็นเลเวล 12 ได้

            ทั้งสองพูดคุยกัน และยังอธิบายให้หวังทั่นจือฟังเกี่ยวกับค่าประสบการณ์หลังเลเวล 11 ไปแล้ว ก็ยังคงเป็นหลงอ้าวหมินที่ถามขึ้นมาก่อนว่า : “เออนี่ พวกนายมีฉายาอะไรกันบ้าง?”

            เฟิงปู้เจวี๋ยกล่าวว่า : “ผู้ระเบิดหัวอย่างเลือดเย็น”

            “เอ่อ......”

            อีกสองคนถึงกลับพูดอะไรไม่ออกเลย ทำให้เกิดการเงียบไปชั่วขณะ

            หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีหวังทั่นจือก็หัวเราะแล้วพูดว่า: “จริงๆ ระบบนี่ก็เป็นเหตุเป็นผลดีเนอะ ในด่านเมื่อกี้ นายโจมตีส่วนหัวซะส่วนใหญ่เลยนี่ ...... แล้วนายก็ดูเลือดเย็นจริงๆ แหละ”

            “แล้วฉายานายละ? ทายาทเศรษฐีเสียงหลงเหรอ” เฟิงปู้เจวี๋ยตอบกลับทันควัน

            “ในเกมจะมีฉายาทายาทเศรษฐีได้ไงละ!”

            “ก็จริง ...... ทายาทเศรษฐีมันเป็นตระกูล ไม่ใช่อาชีพ” เฟิงปู้เจวี๋ยตอบรับ

            “ฉายาของฉันคือ [ผู้ลอบจู่โจมที่ตื่นตูม] ......” หวังทั่นจือขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับเขา จึงรีบบอกฉายาของตัวเองออกไป

            เฟิงปู้เจวี๋ยคิดครู่หนึ่ง : “อืม...... นี่เอามาเพื่อแสดงถึงการสติหลุดและไม่สามารถเผชิญหน้าต่อสู้ตรงๆ งั้นเหรอ ...... ระบบนี่เข็มเดียวเห็นเลือด (สำนวนหมายถึง ตรงไปตรงมา เฉียบคม) เลยนะเนี่ย”

            “เข็มเหรอ? มีดมากกว่ามั้ง? ฉายาแบบนี้คนแปลกหน้าคงดูถูกมากกว่า!” หวังทั่นจือกล่าว

            “คนอื่นๆ เห็นฉายาของนายแล้วดูถูกแต่แรก หรือ จะเห็นนายกรี๊ดเสียงหลงแล้วช่วยอะไรไม่ได้ถึงดูถูกนาย ก็ไม่ต่างกันมากนะ” เฟิงปู้เจวี๋ยกล่าว

            “ฮ่าฮ่า......” หลงอ้าวหมินหัวเราะ อยากมีส่วนร่วม “จริงๆ น้องหวังก็ไม่ต้องกังวลไรมากหรอก ฉายามันจะเปลี่ยนทุกๆ ครั้งที่ผ่านด่าน จบการต่อสู้เมื่อกี้ ฉายาของฉันก็เปลี่ยน ตอนนี้เป็น [ผู้คุ้มกันทีม]”

            พวกเขาทั้งสามคุยกันอีกเล็กน้อย หลงอ้าวหมินก็บอกว่าตนเองออนไลน์นานมากแล้ว อยากจะออกจากระบบไปพัก แล้วจะล็อกอินเข้าโหมดนอนหลับมาอีกครั้งตอนเช้า หวังทั่นจือก็ไม่อยากจะเล่นต่อแล้วในวันนี้ ในคืนนี้ก็ไม่คิดจะออนอีก หากนับรวมคลาสมือใหม่ วันนี้เขาเล่นด่านต่อเนื่องมาถึงสี่ด่านแล้ว หากเล่นต่อไปมันจะโหดร้ายกับตัวเองมากไป เฟิงปู้เจวี๋ยเองก็ตั้งใจรับไอเทมรางวัลแล้วก็ออกจากระบบ แต่ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยนะ เขาแค่ต้องการควบคุมระดับของตัวเองเท่านั้น

            ในช่วงทดสอบระบบ กำหนดเลเวลสูงสุดอยู่ที่ 20 สำหรับผู้เล่นที่ไม่ใช่มืออาชีพแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนในการอัพเลเวล เมื่อผู้เล่นในระบบสามารถอัพเกรดจนถึงเลเวลนี้เป็นจำนวน 10% จากจำนวนผู้เล่นทั้งหมด การทดสอบระบบก็จะยุติลงทันที หลังจากนั้นก็จะปิดเซิร์ฟ รอระบบอัพเดทจนออกมาเป็นเวอร์ชั่นสมบูรณ์ก็เริ่มเปิดระบบอย่างเป็นทางการ

            เกมสวนสนุกสยองขวัญเป็นเกมที่สามารถดึงดูดพาร์ทเนอร์ต่างๆ ได้เป็นเวลานานแล้ว ก็เหมือนที่เคยกล่าวมาทดสอบระบบของบ่ายวันแรก เฟิงปู้เจวี๋ยก็สามารถหาข้อมูลวิธีการเล่นในเว็บบอร์ดจากผู้เล่นนับสิบคนแล้ว มันชัดเจนว่า ข้อมูลเหล่านี้ล้วนมาจากผู้เล่นมืออาชีพทั้งนั้น คนพวกนี้ล้วนแต่เริ่มเล่นตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงโหมดนอนหลับ (โหมดต่อเนื่อง) ส่วนอีกกลุ่มก็ต่อสู้ในโหมดตื่นนอน แล้วกลางคืนก็เปลี่ยนกะ ……

            อ้างอิงจากข้อกกฎหมายของปี 2055 บริษัทค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับการออนไลน์ของผู้เล่น การเล่นในโหมดตื่นนอนการเชื่อมต่อกับเกมจะไม่เกินสิบชั่วโมง โหมดนอนหลับจะมีสัดส่วน 1:10 ต่อชั่วโมง การเชื่อมต่อจะห้ามเกินแปดชั่วโมง ค่าปกติที่แนะนำนั้นคือสี่ชั่วโมงลงไป หากเข้าเล่นทั้งสองโหมดจนครบกำหนดระยะเวลาภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วละก็ ระบบจะทำการบังคับให้ออกจากระบบทันที  แล้วจะต้องรออีกยี่สิบสี่ชั่วโมงถึงจะเข้าเล่นใหม่อีกครั้ง

            พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้เล่นคนหนึ่งในหนึ่งวัน สามารถเข้าเชื่อมต่อประสาทเล่นสิบแปดชั่วโมง โดยสิบชั่วโมงคือโหมดตื่นนอน อีกแปดชั่วโมงคือโหมดนอนหลับ ซึ่งถือเป็นขีดจำกัด ต่อให้เปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ไม่มีผล เครือข่ายการเชื่อมต่อประสาทจะไม่มีการรับการเข้าระบบกับ ID ใดๆ อีก นี่เป็นเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ื่อมต่อก็ไม่มีผล เครือข่ายการเชื่อมต่อประสาทจะไม่มีการรับการเข้าระบบกับ ับให้ออกจากระบบทันทหลักๆ ก็เป็นเพราะห่วงสุขภาพของผู้เล่นนั่นเอง ช่วงแรกที่มีการเปิดตัวเกมแนวเชื่อมต่อโซนประสาท มีคนบางคนที่นอกจากเวลากินข้าวกับไปห้องน้ำแล้ว เวลาที่เหลือคงการเชื่อมต่อเกมไว้ตลอดเวลา พวกเขาเหล่านี้ล้วนตายอย่างกะทันหันหรือไม่สมองก็ไม่สามารถกลับสู่สภาวะปกติจนกระทั่งตายในที่สุด แน่นอนว่า จะโทษเจ้าของพอร์ตเกมหรือตัวเกมไม่ได้ เพราะทศวรรษก่อนหน้านี้ ช่วงคอมพิวเตอร์รุ่นที่สี่ยังเป็นที่นิยมนั้น คนที่ตายคาร้านอินเตอร์เน็ตก็มีมาก จะโทษใครได้?

            เมื่อบอกลาเสี่ยวทั่นกับพี่หลงแล้ว ก็สิ้นสุดการสนทนาสลายทีมกันไป เฟิงปู้เจวี๋ยกดเปิดประตูลิฟต์ หันหลังเขาไปโซนรับไอเทม

            ในห้องนี้ยังคงมีเสากระจกสองต้นเหมือนเดิม ด้านในเสากระจกฝั่งซ้าย มีไอเทมลอยอยู่แล้วหนึ่งชิ้น คิดว่าน่าจะเป็นไอเทมรางวัลที่เจ้าแห่งกาลเวลามอบให้ หากไม่ได้ฟื้นคืนผนึกประตูปีศาจจนได้จุดจบแบบนี้ รางวัลชิ้นนี้คงไม่ได้มา

            เฟิงปู้เจวี๋ยหยิบไฟฉายกระบอกหนึ่งเก็บไว้ในพื้นที่ล็อกอิน ทำให้ช่องในกระเป๋าเปลี่ยนเป็น 6/10 แล้วค่อยไปรับไอเทม ก่อนหน้านี้เขาเห็นในแถบเมนูว่ามีความสามารถพิเศษมอบให้กับเขา แต่ทักษะนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในช่องทักษะ ไม่กินเนื้อที่ของช่องทักษะ

            [ชื่อ: สะเทือนสมอง]

            [ประเภทความสามารถ: เชิงรับ]

            [ประสิทธิผล: เมื่อใช้อุปกรณ์หัวทื่อนี้จู่โจมบริเวณส่วนหัวจะมีโอกาสเกิดความมึนงง 30% เป็นเวลาสองวินาที]

            [หมายเหตุ: โจมตีแต่ไม่ระเบิดหรือแตกก็ไม่เป็นไร ออกแรงอีกสักหน่อย มันก็แค่หัวเอง]

            ชื่อของทักษะพิเศษนี้ไม่เลวเลย ถึงแม้จะเป็นเชิงรับ แต่ก็ไม่เสียค่าความแข็งแกร่ง หากขณะต่อสู้กับมอนสเตอร์เลเวลต่ำ ใช้คู่กับ [คีบหนีบมาริโอ้] น่าจะโอเคไม่น้อย แต่หากเจอมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง มอนสเตอร์ที่ไม่ได้มีรูปร่างเป็นคน เป็นวิญญาณไม่มีตัวตน หรือ BOSS พวกนั้น ...... อาจจะไม่มีโอกาสให้เฟิงปู้เจวี๋ยได้ใช้อุปกรณ์นี้ในการโจมตีส่วนหัวได้เลย

            เฟิงปู้เจวี๋ยเดินมายังเสากระจกต้นที่หนึ่ง ด้านในมีขวดทรายขนาดเล็กลอยอยู่

            [ชื่อ: ทรายเชื่องช้า]

            [ประเภท: ไอเทมสิ้นเปลือง]

            [คุณภาพ: ยอดเยี่ยม]

            [ประสิทธิผล: เมื่อทุบขวดจนแตก มอนสเตอร์รอบๆ บริเวณหนึ่งร้อยเมตรจะเคลื่อนไหวช้าลงสิบเท่าตัว ต่อเนื่องหนึ่งนาที]

            [หมายเหตุ: ภายในขวดนี้ผสมเศษผงแห่งเวลาไว้ หากคุณต้องเผชิญกับมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ ไม่แน่ว่าไอเทมขวดนี้อาจจะช่วยคุณได้]

            “นี่ถือว่าเป็นไอเทมล้ำค่าเลยนะเนี่ย เสี่ยวทั่นกับพี่หลงจะได้กันคนละขวดรึเปล่านะ......” เฟิงปู้เจวี๋ยบ่นพึมพำ แล้วเดินไปยังเสากระจกต้นที่สอง

            [กรุณาเลือกรางวัลพิเศษของคุณ: 1. แรนดอมไอเทมที่สอดคล้องกับระบบหนึ่งชิ้น 2. เหรียญ 50000 (สุงสุด) 3. ค่าประสบการณ์ 4400 แต้ม]

            เมื่อมาถึงเลเวล 11 อันดับมูลค่าของการประเมินนี้แน่นอนว่าต่อให้เป็น “ศูนย์รวมแห่งความกล้า” ก็ต้องเลือกรางวัลที่สาม หรือไม่ก็ เหรียญห้าหมื่นเหรียญ ก่อน ไอเทมนั้นไว้หลังสุดแน่นอน เพราะมันทำให้ “ค่าประสบการณ์ปัจจุบันเพิ่มขึ้นถึง 40%” ซึ่งถือว่าเป็นไปได้มากที่สุด

            ว่ากันตามหลักการ หากความผิดปกติของเฟิงปู้เจวี๋ยยังคงอยู่ ในแต่ละเลเวลของเขา ขอแค่เขาผ่านมาสองด่านแล้วรอดมา เลเวลก็เพิ่มขึ้นอยู่แล้วแน่ๆ

            สืบเนื่องจากเหตุผลนี้ เฟิงปู้เจวี๋ยเลยไม่คิดที่จะเอาค่าประสบการณ์เลย สิ่งที่เขากังวลที่สุด คือค่าความสยองขวัญที่ไม่กระเตื้องเลยบริษัทเกมจะสะดุดตาเอา แล้วอาจจะถูกกล่าวหาว่าโกง ดังนั้น หากเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงไป เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะอัพเลเวลเร็วขนาดนั้น

            ดังนั้น เขาจึงเลือกไอเทมเหมือนเดิม ถึงแม้ในตอนนี้เขาจะไม่ได้ขาดแคลนอาวุธ ทั้งใกล้ไกลมีหมด แต่ไอเทมป้องกันยังไม่มี เขาหวังว่าเขาจะสุ่มได้ไอเทมป้องกันสักชิ้น