"กรี๊ดดดดด!!! ใครอ่ะแก หล่อแท้หรู"
แฟรงค์ตาลุกวาวกรีดร้องลั่นรถ แต่ยังดีที่รถยุโรปออกแบบมาเพื่อเก็บเสียงโดยเฉพาะ ความหล่อเหลาของบุรุษเพศตรงหน้าทำเอาร่างหญิงที่ซ่อนอยู่ภายในถึงกับสั่นระริก
"พี่ชายฉันเอง"
ปั้นหยาตอบเสียงเบาไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะในใจรับรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ได้คิดกับอนาวินเป็นเพียงแค่พี่ชาย
"คนนี้เหรอที่แกแอบหลงรัก หล่อแบบวัวตายควายล้มอ่ะแก เริ่ดมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเค้าจะใจร้ายกับแกได้"
ทั้งสองคนมักจะคอยรับฟังปัญหาชีวิตของกันและกันเสมอ เรียกได้ว่าตอนที่อยู่อเมริกาแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาจนมีคนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน
"ช่างเถอะ เค้าไม่สนใจฉันหรอก ไม่เคยสนใจเลยต่างหาก"
สีหน้าของเธอดูสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ฟ้าบันดาลให้เธอมีผู้มารับไปอุปการะเลี้ยง แต่กลับส่งบุรุษรูปงามที่ดีพร้อมไปเสียทุกอย่างให้มาเป็นพี่ชาย รักที่ต้องซ่อนเร้น รักที่ไม่มีทางเป็นไปได้
"สาบาน? แกออกจะสวยนะปั้นหยา ฉันว่าแกลองอ่อยเค้าดูหน่อยสิ ผู้ชายนะทนกับอะไรแบบนี้ได้ไม่นานหรอก เสร็จทุกราย"
ถึงแม้ว่าพี่ชายเพื่อนจะน่ากินมาก แต่ถ้าหากเขาคือคนที่เพื่อนรัก ก็ควรจะละเว้นเอาไว้ ถึงแม้จะรู้สึกเสียดายจนน้ำลายสอแค่ไหนก็ตาม
"แต่เค้าเป็นพี่ชายฉันนะ แกอย่าลืมสิแฟรงค์ ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้"
เลิกหวังไปเลยคงจะง่ายกว่า เขาออกจะแสดงอาการว่าเกลียดเธอจนเข้าไส้ออกปานนั้น
"แกก็เลื่อนจากน้องสาวมาเป็นศรีภรรยาสิคะคุณเพื่อน มันก็ได้เหมือนกันไง"
ตั้งใจสนับสนุนเพื่อนเต็มที่ แต่มาปั้นหยากลับทำหน้าตึง
"แกรู้ไหม ว่าเค้าห้ามไม่ให้ฉันเข้าใกล้เกินสามเมตร ห้ามนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะด้วย ห้ามยุ่งกับเสื้อผ้าของส่วนตัว นี่ยังดีนะที่เขายังไม่รู้ว่าวันนั้นฉันแอบเข้าไปในห้องนอน แล้วเห็นว่าเขากำลังช่วย.... เอ่อ... ไม่มีไร เรารีบไปกันดีกว่า ฉันหิวจะแย่ละ ยังไม่ได้กินอะไรเลย"
เกือบเผลอหลุดปากพูดออกไปแล้วไหมล่ะปั้นหยา! ทั้งที่พยามทำตัวกลมกลืนให้ดูเป็นปกติมากที่สุด แต่ก็ยังไม่รอดพ้นคนขี้สงสัยอย่างแฟรงค์ ที่ใช้สายตามองมาอย่างจับผิด
"ช่วย อะไร แกเห็นเค้าช่วยอะไร หรือว่า...." แฟรงค์ทำหน้าตกใจ
"ช่วยตัวเอง แกเห็นพี่ชายสุดหล่อช่วยตัวเองหรอ กรี๊ดดดดด!!!"
เกย์หนุ่มกรีดร้องเสียงลั่นแทบลืมหายใจ เมื่อเห็นเพื่อนสาวพยักหน้าตอบรับ อะไรมันจะโดนใจได้ถึงขนาดนี้กันเชียว
"เบาๆหน่อย"
ปั้นหยารีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนที่แหกเสียงร้องดังไม่หยุด ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ยอมให้แฟรงค์รู้เรื่องที่น่าอับอายนี้
"แกเห็นได้ไง เขาทำให้ดูแกดูเหรอ หรือว่าแกแอบติดกล้องไว้ในห้องนอนเค้า"
ยิ่งทำให้อยากรู้อยากเห็น หนุ่มหล่อล่ำบึ้กแบบนั้น ไม่ต้องคาดเดาให้เสียเวลาก็พอจะรู้ว่าขนาดของอาวุธประจำกายคงไม่ธรรมดา ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชองเนิ่นนานมากว่าสามปีที่อยู่ในดงผู้ชายแถบตะวันตก
"ช่างมันเถอะน่า ฉันไม่อยากคิดถึงมันอีกละ"
คิดแล้วก็ต้องหน้าแดง ร่างกายของบุรุษเพศที่สมบูรณ์แบบยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจ อนาวินคงไม่รู้หรอกว่าเธอได้เห็นอะไรต่อมิอะไรของเขาหมดไปทั่วทั้งร่างกายแล้ว ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าธรรมชาติของมนุษย์เพศชายจะต้องมีการระบายอารมณ์ให้กับตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงร่างกายเปลือยเปล่าอันทรงพลังนั้นในยามที่เขากระแทกส่วนที่คัดแข็งเป็นลำเข้ากับอุ้งมือตัวเอง มันเหมือนกับท่าร่วมรักในหนังผู้ใหญ่ที่เธอเคยดูเลย
"ขนาดเป็นไง ใหญ่ป่ะ ใหญ่กว่าไมเคิลกิ๊กฉันไหม" ในความที่สนิทกันมากจึงไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง
"พอเถอะ ฉันเอียนไปหมดแล้วเนี่ย หิวข้าว"
ยิ่งพูดก็ยิ่งลามลึก จึงต้องรีบตัดบท เมื่อไม่ยอมตอบคำถามของแฟรงค์ เจ้าตัวจำต้องยอมขับรถออกจากบ้านได้เสียที แต่แปลกที่รถบีเอ็มสีขาวคันหรูของอนาวินยังคงจอดอยู่ในโรงรถ เธอเห็นเขาสตาร์ทเครื่องไว้ตั้งนานแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ยอมขับออกไปเสียที
ครั้นเวลายามเย็นกว่าจะเดินชอปปิ้งและเม้ามอยกับเพื่อนสนิทเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม เหล่าบรรดาพวกผู้ชายในกังกัดของเพื่อนเยอะมากเสียจนคนที่ฟังรู้สึกปวดหัวตาม ทั้งกิ๊กคนเก่าและกิ๊กคนใหม่
ร่างบางเดินเข้ามาในบ้านอีกครั้งในยามวิกาลที่เงียบสงัด เธอเหนื่อยและเพลียจากการเดินห้างมาทั้งวันจึงอยากพักผ่อน และในจังหวะที่ก้าวขาขึ้นบันไดก็ได้ยินเสียงบางอย่างแว่วดังขึ้นมากระทบโสตประสาท จึงได้ลอบเดินตามเสียงนั้นไปจนถึงหน้าห้องของอนาวิน
“อ๊า...วินขา...แรงๆค่ะ...โอ้วววว”
เสียงอะไรแว๊ แหะแหะ
ฝากติดตามกดไลค์ และคอมเม้นกำลังใจด้วยเน้อ
เม้นกระตุ้นๆๆๆ ให้หญิงแพรวขยันหน่อย ฮึบ!