ปวดหัว
หัวของเขามันปวดตุบๆ จนแทบระเบิด
เปลือกตาบางเปิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดลงด้วยทนไม่ไหวกับแสงสีขาวแยงตา
ไม่น่าดื่มหนักเลยให้ตายสิ
“ปวดหัวเหรอ”
เสียงนุ่มๆ คุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับความอบอุ่นที่นาบลงบนหน้าผากก่อนจะรับรู้ได้ถึงการนวดคลึงที่ขมับ นิ้วใหญ่ไล้ไปตามจุดผ่อนคลายแล้วบรรจงเค้นคลึงขมับเขาด้วยแรงกึ่งเบากึ่งหนักสลับกันไป พอทำไปได้สักพักหัวของเขาก็โล่งขึ้นนิดหน่อยจนสามารถเปิดเปลือกตาขึ้นมาได้
ภาพแรกของวันที่เห็นคือใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยที่คลอเคลียด้วยผมสีเทารุงรังเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน พอมองเลยลงไปนิดหน่อยจึงเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สวมเสื้อแต่สวมแค่กางเกงวอร์มขายาวสีเทา
ไม่น่าเชื่อแล้วว่าผมหงอกจะดูเหมาะกับตาลุงขนาดนี้ แต่ที่ไม่น่าเชื่อกว่านั้นก็...
“ซิกแพ็คแน่นจังเลยลุง”
ริมฝีปากได้รูประบายเสียงหัวเราะร่วนออกมา ก่อนจะทิ้งตัวลงมานอนข้างๆ แล้ว...
“อะไรเล่าลุง เฮ้ย ฮ่าๆ โอ๊ย ลุง อย่าดิ ฮ่าๆ”
ตาลุงนั่นแกล้งจี้เอวเขาไม่หยุด ไม่จี้เปล่ายังหอมแก้มไป หอมคอไป
หาเศษหาเลยเก่งชะมัด
เดี๋ยว มีบางอย่างไม่ปกติ
เด็กหนุ่มชะงักแล้วดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วก้มมองไปยังท่อนล่างที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
คราบสารคัดหลั่งสีขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนต้นขาทำให้เขาตัวชาวาบ
ไม่จริง...ไม่จริง
“มีอะไรเหรอ”
เขาขืนตัวออกจากอ้อมกอดที่เข้ามาด้านหลังโดยอัตโนมัติ
ไม่เอา...แบบนี้ไม่เอา
“ทำไม”
ปากเขาสั่น ลำคอเขาแห้งผาก
“ทำแบบนี้ทำไม!”
เสียงตะโกนของเขาไม่ดังนัก แต่มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้อีกคนชะงักค้าง นัยน์ตาดำขลับของอีกฝ่ายจ้องมาที่เขาด้วยแววตาบางอย่างที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ
ภาพตรงหน้ามันพร่าเกินไป
มือของเขาสั่นเกินไป
“ดิม เป็นอะไร บอกฉันมา”
แขนแกร่งพยายามจะดึงตัวเขาเข้าไปในอ้อมกอด แต่เด็กหนุ่มขยับตัวหนี
“คุณทำแบบนี้กับผมทำไม”
เขาได้ยินเสียงสะอื้นของตัวเอง
ไม่จริงน้า...
นิ้วเรียวไล้ไปตามใบหน้าตัวเองจนมาหยุดที่แก้ม
....เขาร้องไห้เหรอ...ไม่จริงน้า...
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันทำอะไร”
นัยน์ตาคมคู่นั้นสบลึกเข้ามาในตาของเขา
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันขออย่างนึง...”
นิ้วโป้งใหญ่เกลี่ยหัวตาเขาอย่างอ่อนโยน
“อย่าร้องไห้”
ร่างใหญ่โตขยับเข้ามาหาเขาช้าๆ
“มีอะไรก็บอกฉันมา ฉันทำอะไรผิดก็มาคุยกัน อย่าใช้อารมณ์แบบนี้”
ในที่สุดเขาก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายอีกครั้ง
ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ
“ไหน ว่ามาสิ ลุงคนนี้ทำอะไรผิดหืม?”
ตัวเขาเครียดเกร็งขึ้นอีกครั้งจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยปลอบอยู่ข้างหู
“ใจเย็นๆ ที่รัก”
ไม่ว่าเปล่า ริมฝีปากอุ่นประทับจูบลงบนเปลือกตาน้อยๆ ของเขา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารอยจูบที่เปลือกตานั้นทำให้เขาสงบลง
“ไหนว่ามาสิ”
นัยน์ตากลมฉายแววดุร้ายเมื่อสบเข้ากับดวงตาอีกคู่
“คุณไม่ป้องกัน”
ดวงตาสวยสั่นระริก
“ไหนเราคุยกันแล้วไงว่าคุณจะรอให้ผมพร้อม แล้วทำไม...”
จู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งขึ้นมาจุกอยู่ที่อกจนเขาพูดต่อไม่ได้จนต้องหลบตาลง
...เป็นความรู้สึกก่ำกึ่งระหว่างผิดหวังกับเสียใจ...
ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้ทังๆ ที่...
“ฉันขอโทษ”
คำขอโทษจากอีกฝ่ายหลุดออกมาง่ายจนน่าแปลกใจ พอเงยหน้าขึ้นสบตาหัวใจเขาก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นกว่าเก่า
มันไม่ได้เต้นรัวด้วยความโกรธและผิดหวังอย่างเมื่อครู่ แต่มันกำลัง...มีความหวัง
ดวงตาคมนั้นฉายแววรู้สึกผิดต่างจากทุกที เขารู้จักตาลุงนี่ดี ถ้าลุงนี่ตั้งใจทำ ดวงตาคมนี่จะฉายแววมั่นคง แม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองผิดแล้วยอมเอ่ยขอโทษ แต่ดวงตาคู่นั้นจะแข็งกร้าวไม่ยอมใคร แล้วทำไมวันนี้...
...จะเป็นไปได้ไหมที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา จะเป็นไปได้ไหมที่มันเป็นเพียงความผิดพลาดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น...
ขอให้เป็นอย่างนั้น เขาอยากได้ยินคำตอบแบบนั้น
“ฉันผิดเองที่ปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนั้น”
เขาพูดไม่ออกเมื่อสิ่งที่อีกคนพูดมาตรงใจเขาอย่างน่าใจหาย
...เขาดีใจ...
เขาดีใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา เขาดีใจที่พวกเขารักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน
เขาดีใจ
จะว่าไป เขาเองก็จำเรื่องเมื่อคืนแทบไม่ได้เลยเหมือนกัน เท่าที่คลับคล้ายคลับคลาคือลุงนี่เข้ามาหาเขา จากนั้นก็...
นั่นสิ เขาเองก็จำอะไรต่อจากนั้นไม่ได้เลย
...บ้าชะมัด...
เขานี่มัน...บ้าชะมัด
ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา
“ผมเองก็ต้องขอโทษ”
เขาสบลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของอีกฝ่าย
“ถ้าจะหาคนผิด ก็คงเป็นเราทั้งสองคน ทั้งผม ทั้งคุณ”
ฝ่ามือเรียวทาบลงบนใบหน้าคมสันที่ห่างออกไปไม่กี่คืบ
“มันเป็นความผิดของเราทั้งคู่ แต่ผมผิดมากกว่าเพราะผมเอาแต่โทษคุณ”
หัวทุยซุกเข้ากับหน้าอกแกร่งตรงหน้า
“ขอโทษนะครับ”
ความอบอุ่นของฝ่ามือใหญ่ไล้ผ่านเส้นผมของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็ผิดจริงๆ”
สิ้นประโยคนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างเงียบไป
เขากลัว...เขายอมรับว่าเขากลัว
นายดนัย ไวยสมุทรกำลังกลัว
การท้องไม่พร้อมเป็นอะไรที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดในชีวิต ตัวอย่างของพี่ดาก็มีให้เห็นอยู่ทนโท่ พ่อเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องท้องก่อนแต่งก็จริง แต่นั่นคือกรณีที่พ่อของเขาโอเคกับพ่อของเด็กในท้อง ไม่อย่างนั้นเด็กคนนั้นก็ต้องตาย ในคราวพี่ดา พ่อเลือกให้เด็กคนนั้นตาย
แล้วคราวนี้ล่ะ?
ถ้าเขาท้องขึ้นมา พ่อจะเลือกชะตาชีวิตแบบไหนให้กับลูกของเขากัน...
“คุณปราณ”
น้ำเสียงของเขาอ่อนแรงกว่าทุกที
“คุณเคยต่อยกับพ่อไหม”
“หมายความว่ายังไง”
เขาเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความไม่มั่นใจ
“ถ้าคุณกับพ่อเคยมีปัญหากัน ลูกเราตายแน่”
แทนที่อีกฝ่ายจะวิตก ใบหน้าสูงวัยกลับคลี่ยิ้มบาง ท่อนแขนใหญ่กระชับเขาเข้าไปใกล้ขึ้นจนแทบนั่งตักอีกฝ่าย
“ฉันไม่เคยมีปัญหากับดลนธี แต่ถึงมี...”
ใบหน้านั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของพวกเขาแตะกัน
“ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลูกเมียฉันแน่”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียบๆ แต่หนักแน่น
แล้วริมฝีปากของพวกเขาก็แตะกัน
หากคำพูดคือการบอกกล่าว รอยจูบที่ประทับลงมาก็คงเป็นคำมั่นสัญญา
***********************************************************************
สั้นมากๆ เลย ฮือออออ
********จริงๆ ตอนนี้ควรจะมีอีกฉากนึง แต่เนื่องจากเราได้ไปสัญยิงสัญญากับนักอ่านที่น่ารักในทวิตไว้ว่าจะอัพวันนี้ แต่ดันมีงานประชุมด่วนที่เราต้องไปจัดการ จะรอให้ถึงตอนเย็นก็ไม่รู้ว่าจะได้อัพรึเปล่า เราก็เลยมาอัพให้ก่อน แต่ขออัพเป็นตอนที่ 10 พาร์ท 1 นะคะ เดี๋ยวพาร์ท 2 จะตามมาพรุ่งนี้เด้อ(หรืออาจจะเป็นวันนี้เย็นๆ ถ้าประชุมเสร็จเร็ว)
พาร์ท 2 ไม่มีอะไรมากนอกจากฉากหวง ห่วงเมียของลุงค่ะ รับรองความขี้หึงขี้หวงของลุงไว้ ณ ที่นี้เลย********
ขอโทษมากๆ ที่มาได้ไม่เต็มตอนเหมือนทุกที ไม่คิดว่าจะมีงานด่วนเข้ามาจริงๆ เสร็จงานแล้วจะรีบกลับมาแต่งพาร์ท 2 ให้เด้อ