ขณะที่องครักษ์ทั้งหกกำลังจ้องตาเขม็งใส่เย่ชีชีอยู่นั้น เย่ชีชีก็เบ้ปากออกมาทันที เพียงพริบตานั้นน้ำตาเม็ดใสกลมโตก็ร่วงรินออกมาจากดวงตาคู่สวย “ฮือ ไม่ยุติธรรมเลย พวกเจ้ามากมายขนาดนี้มารังแกข้าคนเดียว ฮือๆ ข้าอายุแค่ห้าขวบ แต่พวกเจ้ากล้าลงมือกับข้าที่มีตัวคนเดียวได้อย่างไรกัน ข้าจะไปฟ้องท่านปู่ ข้าจะให้ท่านปู่จัดการพวกเจ้าให้หมด ฮือๆ ”
……
……
ฉับพลันทั้งห้องก็เงียบสงัดราวกับป่าช้า
เหลือเพียงเสียงร้องไห้ดุจฟ้าทลายของเย่ชีชี ปลายเสียงแหลมสูงดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เสมือนว่าจะดังต่อไปสามวันมิเลิกรา
นัยน์ตาขององครักษ์ทั้งหกมีแววตื่นตระหนก มิรู้ควรทำเช่นไร
จากที่เคยปฏิบัติภารกิจมา คู่ต่อสู้ของพวกเขาต่างเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่ง หากมิใช่ผู้ที่มีวรยุทธ์สูง ก็จะเป็นผู้ร้ายที่มีความผิดร้ายแรงห้ามละเว้น คนเหล่านั้นสังหารคือสังหาร และแน่นอนใช่ว่าไม่มีคนคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตจากพวกเขา แต่ส่วนมากเป็นพวกเขาที่จะปาดคอพวกมันโดยไม่แม้แต่กะพริบตา
แต่ว่าเบื้องหน้านั้น....
คุณชายของพวกเขาสั่งให้ร่วมกันจัดการเด็กผู้หญิงตัวเล็กเพียงคนเดียว ภารกิจเช่นนี้....เฮ้อ....คำสั่งของนายน้อยนั้น...จัดการก็จัดการ...
แต่ว่านายน้อยไม่ได้บอกให้สังหารนางเสียหน่อยนี่ แค่บอกให้จัดการนาง...
สำหรับองครักษ์ที่แต่เดิมเคยสังหารคนโดยไม่กะพริบตา แต่ยังมิเคยลองจัดการแต่ไม่สังหารมาก่อนเลย.......
ปัญหาอยู่ที่.....จะจัดการอย่างไรล่ะ
พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หากพลั้งพลาดมือหนัก เล่นงานจนเด็กหญิงปางตายเสียจะทำเช่นไรเล่า
ถ้าหากเย่ชีชีลอยหลบไปทั่วตลอดเวลาก็ว่าไปอย่าง พวกเขายังสามารถอ้างได้ว่าตนเองนั้นตามนางไม่ทัน จึงไม่สามารถจัดการนางได้ แต่ว่าตอนนี้นางกลับหยุดนิ่งเสียแล้ว แถมร่างบอบบางยังคงร้องไห้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้นอีก.....
เฮ้อ...แบบนี้.....พวกเขาไม่กล้าลงมือหรอก.....
ในใจของเหล่าองครักษ์รู้ดี นายน้อยของพวกเขาแค่เพราะถูกเด็กหญิงคนนั้นหยอกล้อ จากอับอายเลยพาลเกิดโทโส เพียงต้องการบันดาลโทสะเท่านั้น ทว่าเวลานี้ปัญหาคือพวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านเฟยเห่อแห่งเขาเยว่ชิงเชียวนะ บุคคลที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเฟยเห่อ อย่างไรก็ต้องมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดาเป็นแน่
แต่ก่อนได้ฟังคำล่ำลือว่า ปรมาจารย์เย่เจวี่ย ผู้นำของหมู่บ้านเฟยเห่อเพิ่งจะมีหลานสาวคนหนึ่งในวัยชรา อีกทั้งเด็กหญิงน้อยคนนั้นยังมีใบหน้าที่งดงามน่ารัก เฉลียวฉลาดสดใส เป็นธรรมดาที่ปรมาจารย์เย่เจวี่ยจะฟูมฟักรักษานางเหมือนไข่ในหิน ทั้งยังเอ็นดูทะนุถนอมดูแลนางเป็นอย่างดี
เด็กผู้หญิงตรงหน้า ดูจากอายุแล้ว คาดว่าเป็นหลานสาวของปรมาจารย์เย่เจวี่ยไม่มีผิดแน่......
นายน้อยของพวกเขามายังหมู่บ้านเฟยเห่อครั้งนี้ เดิมทีก็เพื่อขอปรมาจารย์เย่เจวี่ยฝากตัวเป็นศิษย์ แต่นี่กลับมาหาเรื่องหลานสาวของเขาเสียได้....
เหล่าองครักษ์เม้มปากไปมา ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี.........
“ยืนนิ่งกันอยู่ทำไม ! จัดการนางสิ !” โม่หานชิงมองใบหน้าของเย่ชีชีที่ร้องไห้เสียจนใบหน้าขาวใสอมชมพูบูดเบี้ยว ในใจก็พลันเกิดความรู้สึกประหลาดแวบขึ้นมา ทว่าปากยังคงออกคำสั่งให้เหล่าองครักษ์จัดการนาง
เฮ้อ...
นายน้อยขอรับ....
ท่านจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะขอรับ....
คำโบราณกล่าวไว้ว่า ชายชาตรีไม่ทำร้ายผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายตรงข้ามยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงหน้าตาสดใสน่ารักคนหนึ่งด้วย......
หากท่านยังไม่รู้จักที่จะเอ็นดูสตรีเช่นนี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าต่อไปท่านจะหาพระชายาไม่ได้......
แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงพระชายาหรอก แม้แต่ชายารอง ชายารองรองลงมา ภริยาน้อย หรือนางบำเรอ ท่านก็จะสู่ขอไม่สำเร็จทั้งนั้น......
เหล่าองครักษ์ต่างนึกพึมพำอยู่ในใจ ทว่าไม่มีใครกล้าพูดออกมา
แต่ในเมื่อนายน้อยมีคำสั่งออกมาแล้ว อย่างน้อยก็ต้องจับตัวเด็กหญิงคนนี้ไว้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน......
เมื่อคิดได้ดังนั้น ขณะที่เหล่าองครักษ์กำลังเตรียมตัวเคลื่อนไหว จู่ๆ ข้อเท้าก็พลันอ่อนแรง ทุกคนพลันคุกเข่าลงเสียอย่างนั้น