Prince 7 แก๊งอันธพาลกับนายนักเรียนแลกเปลี่ยน (8p)
ตอนที่ 3
“เอากับผู้ชาย มันจะรู้สึกยังไงวะ” กั๊มพูดขึ้นในขณะที่สายตายังมองข้างทางไปเรื่อยๆ ถึงพวกเขาจะมั่วแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเอาผู้ชายด้วยกัน จะยกเว้นก็แต่ร่างเล็กที่นอนหลับอยู่เบาะด้านหน้า
“เออวะ” โจวพยักหน้าครุ่นคิดตามคำพูดของกั๊ม
“อ่าว ไม่ใช่ว่ามึงเคยเอากับผู้ชายมาแล้วหรอวะ?” แทยังหันมาถามกั๊มที่นั่งอยู่อีกด้านโดยมีเมฆนั่งคั่นระหว่างกลาง
“หึหึ” เร็นที่นั่งเงียบอยู่ด้านหน้าถึงกับหัวเราะออกมา
“เชี้ย กูไม่เคย” กั๊มลูบแขนตัวเองไปมา แค่คิดภาพเขาก็ขนลุกไปทั้งตัว
“แต่เรื่องนี้มึงเป็นคนเสนอขึ้นมาปะ” แทยังหัวเราะกับท่าทางของกั๊ม
“กูก็แค่เสนอปะวะ ไม่ได้หมายความว่ากูจะเคยเอากับผู้ชาย” กั๊มหันมาตอบ
“เออๆ แล้วจะเอาไงกับเด็กนี่ต่อวะ” แทยังตอบด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ ก่อนจะหันกลับมานั่งพิงเบาะตามเดิม
“คนคิดมันก็นั่งอยู่ข้างๆ มึงไง” เมฆหันมามองแทยังและชี้นิ้วไปที่แทยอน ก่อนจะปรับเบาะเพื่อนอนพักสายตา
“มึงคิดไว้แล้วหรอวะ?” แทยังหันกลับมาถามแฝดพี่ของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ แทยอนพยักหน้าเล็กน้อย
“ครับ” แทยอนตอบ ปิดหนังสือที่อยู่ตรงหน้าหลังจากที่อ่านมาสักพัก ก่อนจะเริ่มพูดถึงเรื่องที่เขาคิดไว้
Tru Tru Tru ! ! !
“สวัสดีครับ” แทยอนยกมือขึ้นเหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณว่าให้เงียบ ก่อนจะส่งเสียงตอบกลับปลายสาย
“พวกเธอไปรับเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนให้พี่รึยัง?”
“รับแล้วครับ ตอนนี้กำลังกลับหอที่ทางโรงเรียนของเราจัดให้” แทยอนเอนพิงเบาะด้วยท่าทีสบายๆ
“อ่อ งั้นพี่ฝากดูแลเด็กคนนั้นด้วยนะ พวกชุดและอุปกรณ์การเรียนเดี๋ยวพี่จัดเตรียมเอาไว้ให้”
“ครับ” แทยอนพูดคุยอีกเล็กน้อยก่อนที่ปลายสายจะวางสายไป
“ตอแหลตัวพ่อ” โจวพึมพำออกมา แต่ก็อยู่ในระดับเสียงที่สามารถได้ยินกันทั้งคัน แทยอนยกยิ้มเล็กน้อย
“เขาเรียกว่าการรู้จักเอาตัวรอดครับ”
คอนโดกิตตินคร
บนเตียงขนาดคิงไซส์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ที่บัดนี้กลับดูเล็กลงเนื่องจากเหล่าร่างสูงที่นั่งประปรายอยู่รอบเตียง โดยมีศูนย์กลางเป็นผู้ชายร่างเล็กที่นอนไร้สติ มือหนาเปรียบเสมือนหนวดปลาหมึกที่ลูบไล้อยู่บนเรือนร่างขาวเนียน กระชากเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายออกทีละชิ้น
“ผู้ชายเหี้ยอะไรขาวโครต”
“ไอ้กั๊มมึงจะลูบเหี้ยอะไรนักหนาวะ รีบๆ ถอดดิเดี๋ยวแม่งก็ตื่นกันพอดี”
“ผิวผู้ชายมันเนียนขนาดนี้เลยหรอวะ”
“พวกมึงเงียบๆ หน่อยดิวะ”
“ไอ้กั๊ม ไอ้ยังมึงจับแขนมันไว้ก่อน เดี๋ยวมันตื่นแล้วจะวุ่น”
กิมจูเริ่มขยับตัวเล็กน้อยหลังจากได้ยินเสียงรบกวนจากรอบข้าง มือทั้งสองข้างปัดป่ายไปมาราวกับว่ากำลังฝันร้าย เปลือกตาบางเริ่มขยับก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น กิมจูกระพริบตาเพื่อปรับแสงก่อนจะมองไปรอบๆ ตัว
“อ่าว ตื่นแล้วหรอวะ” แทยังพูดขึ้นมือก็คอยลูบไล้ร่างกึ่งเปลือยของกิมจูไปด้วยความใคร่ ขาว เนียน นุ่ม น่าฟัดไปทั้งตัว
“พวกคุณ ทำไม ที่ไหน แล้วๆ”
“ตอนหลับนางฟ้า ตื่นมา…ก็นางฟ้า แต่ไร้สติ” กั๊มเอ่ยพร้อมกับมองกิมจูที่มีสีหน้าตกใจราวกับเจอสัตว์ประหลาด ไหนจะตาโตๆ นั่นที่แทบจะทะลุออกมาจากเบ้า นี่หน้าตาพวกกูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ…
“ที่นี่ที่ไหน แล้วพวกคุณจะทำอะไร ปล่อยแขนผมนะ ปล่อย!!” กิมจูโวยวายออกมาทันทีหลังจากรับรู้ว่าร่างกายของเขาถูกพันธนาการด้วยมือหนาของแทยังและกั๊ม เสื้อผ้าที่ใส่มาตอนแรกถูกโยนทิ้งไว้ข้างเตียง ประกอบกับร่างสูงที่อยู่ในห้องไม่ได้สวมเสื้อมันยิ่งทำให้ใจของเขาเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว
“ใจเย็น ท่องพุทโธ พุทโธ สติ ขันติ”
พลั๊ว ! ! !
“เชี้ยไรวะ!” กั๊มโวยขึ้นหลังจากโดยฝ่ามือของแทยัง
“จะปล้ำเขาหรือจะสอนธรรมะหะ! ไอ้ห่า แม่งขันติ สติ พ่องมึงดิ วุ๊ !” แทยังทำหน้าระอากับความบ้าของกั๊มก่อนจะจับข้อมือของกิมจูให้แน่นขึ้น
“กูเห็นมันเครียดเลยอยากให้ผ่อนคลาย” กั๊มยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว แต่นั่นกลับไม่ทำให้กิมจูกลัวน้อยลงเลยสักนิด แทยังส่ายหัวกับความคิดพิเรนของกั๊ม ก่อนจะสั่งให้กั๊มจับข้อมือของกิมจูอีกข้างให้แน่นขึ้นเพราะเหยื่อดันตื่นซะก่อนที่พวกเขาจะเตรียมการเสร็จ
“ตื่นแล้วก็ดี กูไม่ชอบลักหลับ” โจวยืนมองกิมจูที่อยู่บนเตียงดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ยิ่งมองยิ่งเร้าอารมณ์ ยิ่งหนียิ่งอยากได้ ปกติมีแต่คนอ้าขาให้ตลอดพอมาเจอคนที่ต่อต้านเขายิ่งรู้สึกท้าทาย
“มึงเปิดเลยปะ” กั๊มหันไปถามเมฆที่ยืนอยู่ข้างโจว โดยที่มือหนายังคงจับข้อมือของกิมจูตรึงไว้ที่เตียง
“อืม” เมฆก้าวเท้าเข้ามาเรื่อยๆ กิมจูมองด้วยดวงตาสั่นระริกพลางสำรวจอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน กล้ามหน้าท้อง ซิกแพค นี่มันใช่ร่างกายของเด็กม.ปลายแน่หรอ ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ เมฆก็คร่อมร่างของเขา
“อะ ป..ปล่อย ผมนะ” กิมจูเริ่มส่งเสียงออกมาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือใบหน้าเปราะเปรื้อนไปด้วยน้ำตา ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่วันแรกด้วยนะ
แกร๊ก ! ! !
“เริ่มแล้วหรอวะ?” โคลต์ถามขึ้นพร้อมกับยืนพิงขอบประตูสายตาก็จับจ้องไปที่ร่างเล็กที่ถูกเมฆคร่อมเอาไว้
“พึ่งเริ่ม แล้วมึงก็มาขัดจังหวะ” เมฆตอบก่อนจะหันกลับมาสนใจร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างของเขาอีกครั้ง สั่นเหมือนลูกนก…
“มึงเห็นไอ้ยอนกับไอ้เร็นปะ พวกแม่งหายไปตอนไหนก็ไม่รู้” แทยังเอ่ยถาม
“ไม่วะ ” โคลต์ตอบก่อนจะหยิบสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมา
“ที่มึงหายไปเพราะไอ้นี่นะหรอ” โจวถามพร้อมกับมองกล้องในมือของโคลต์ไปด้วย
“จะคุยหรือจะเอา” เมฆถามขึ้นด้วยความรำคาญ มือหนาเสยผมขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“เอา !” ทั้งสี่คนพูดขึ้น กิมจูสะดุ้งด้วยความตกใจ เมฆยกยิ้มก่อนจะเริ่มซุกไซร้ซอกคอขาวที่หอมกรุ่น กลิ่นเฉพาะของคนใต้ร่างมันช่างเย้ายวน มือหนาเลื่อนลงบีบเค้นสะโพกที่กลมกลึงยิ่งลูบยิ่งมีอารมณ์
“แม่งทำไมน่าเอาขนาดนี้วะ” โคลต์พูดขึ้นพร้อมกับยกกล้องเริ่มถ่ายวิดีโอ เขาซูมไปที่หน้าของกิมจูที่เต็มไปด้วยน้ำตา ปากแดงๆ เผยอออกนิดๆ แก้มอมชมพูระเรื่อ จะมองตรงไหนมันก็น่าฟัด
“ไอ้พวกบ้า ปล่อย ฮึก ปล่อยผม” กิมจูเริ่มฮึดขึ้นสู้อีกครั้ง ถึงแขนจะโดนจับไว้แต่ขายังเป็นอิสระ กิมจูดิ้นสุดแรงทั้งเตะทั้งถีบถึงจะไม่โดนใครแต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่
“แม่ง อยู่นิ่งๆ ดิวะ” เมฆเริ่มหงุดหงิดหลังจากถูกขัดอารมณ์ถึงสองครั้งติด
เพี้ย ! ! !
“ฮึก ฮือ ป..ปล่อย ฮึก” กิมจูหันไปตามแรงที่เมฆตบก่อนจะรู้สึกถึงกลิ่นคาวของเลือดที่ไหลอออกมา
“อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากโดนตบอีกรอบ” เมฆก้มลงกัดซอกคอขาวอย่างแรงจนเลือดซิบ มือหนาบดขยี้หัวนมสีชมพูสดที่เริ่มตั้งขึ้นสู้มือ
“อะ อื้อ จ…เจ็บ ฮึก ไอ้พวกวิปริต ฮึก” กิมจูส่ายหน้าไปมา เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลยซักนิดแต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง ตอบสนองสัมผัสของเมฆราวกับเชิญชวน เมฆมองปฏิกิริยาของร่างเล็กตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ ปากบอกอีกอย่างแต่ร่างกายกลับซื่อตรง
“เอ็กซ์ดีวะ ไอ้โคลต์ถ่ายไว้ให้หมดนะมึง” โจวบอกกับโคลต์โดยที่สายตาทั้งสองข้างยังคงจับจ้องไปที่ร่างของกิมจูที่อยู่บนเตียงกับเพื่อนของเขา ร่างเล็กตรงหน้ามันช่างมีเสน่ห์ดึงดูดเกินกว่าผู้หญิงที่พวกเขาเคยเอา
“ระดับกู” โคลต์ตอบกลับพร้อมกับยกนิ้วให้โจว
“อืมม” เมฆครางออกมาด้วยความพึงพอใจ ดูดดุนสร้างรอยคิสมาร์คไปทั่วซอกคอ มือหนาเลื่อนไปถอดอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วปราการสุดท้ายที่ปกปิดร่างของกิมจูออก แก่นกายน้อยที่เริ่มแข็งขึงตามอารมณ์ตั้งขึ้นราวกับทักทายผู้มาเยือน เมฆคลึงส่วนหัวที่เริ่มมีน้ำใสๆ ปริ่มออกมาเบาๆ เรียกเสียงครางจากร่างเล็กได้ไม่น้อย
"อะ อื้ออออ ย..หยุดด ต..ตรงนั้น อ๊าา" กิมจูผงกหัวมองเมฆที่กำลังเล่นกับแก่นกายของตัวเอง ก่อนจะใช้จังหวะที่เมฆเผลอถีบเข้าไปที่หน้าท้องอย่างจัง แต่เมฆกลับไม่ขยับตัวแม้แต่น้อยราวกับว่าการถีบของกิมจูมันเบาซะจนอีกคนไม่รู้สึก
“แสบนักนะมึง” เมฆบีบข้อเท้าเล็กอย่างแรงจนกิมจูรู้สึกเจ็บราวกับกระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
"ฮึก ปล่อยผมเถอะ" เมื่อเห็นว่าไม่สามารถทำอะไรได้บางทีการพูดขอร้องดีๆ มันอาจจะได้ผล ร่างสูงตรงหน้าคงจะได้สติขึ้นมาบ้าง เมฆหัวเราะในลำคอราวกับว่ารู้ความคิดของร่างเล็ก
"หึ ไอ้คนที่ปากดีคนนั้นมันหายไปไหนซะแล้วละ" เมฆจับขาทั้งสองข้างของกิมจูอ้าออกก่อนจะแทรกตัวเข้าระหว่างกลาง กั๊มกับแทยังมองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของอีกฝ่ายมันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกอยากจะกระแทกร่างเล็กตรงหน้า
“ไอ้เมฆเบาๆ เด็กมันสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วนะเว้ย” แทยังเอ่ยขึ้นตรงข้ามกับความรู้สึก เมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองเริ่มขาดสติ โจวและกั๊มมองแทยังก่อนจะยกยิ้มออกมา
ไอ้นี่มันร้าย…
“หุบปาก” เมฆตอบกลับแววตาเกลี้ยวกลาด ตอนนี้เขาอยากจะขยี้กิมจูให้แหลกด้วยน้ำมือของเขา เมฆจับแก่นกายของกิมจูก่อนจะบีบคลึึงส่วนหัวก่อนจะขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ
“อะ อึก ป..ปล่อยย อ๊า” กิมจูบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน ตัวสั่นระริก สัมผัสแปลกใหม่ที่ทำให้เขารู้สึกดีและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน กิมจูพยายามที่จะหุบขาแต่ก็ถูกเมฆจับอ้าออก ก่อนจะแทรกตัวมาระหว่างกลาง
“หึ ร่างกายตอบสนองดีใช้ได้” เมฆเลียริมฝีปากด้วยความหื่นกระหาย จับจ้องไปที่แก่นกายที่เริ่มมีน้ำใสๆปริ่มออกมาตรงหน้า ก่อนจะเร่งจังหวะในการรูดเร็วขึ้น
“อ๊ะ อ๊าา !!” กิมจูครางเสียงกระเซ่าด้วยอารมณ์ที่ถูกปลุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะโพกบางเริ่มกระแทกสวนกับจังหวะที่เมฆรูดรั้น โดยที่มีสายตาทั้งห้าคู่มองมาด้วยความกระสัน
“เริ่มซักทีดิวะ กูจะไม่ไหวแล้วนะเว้ย” โจวพูดขึ้นก่อนจะควักแก่นกายที่พองโตออกมาสูดอากาศหายใจด้านนอก ก่อนจะชักเป็นจังหวะสายตาก็จับจ้องไปที่กิมจู น่าเ-ดเกินไปแล้ว…
“แข็งเชียวนะมึง” กั๊มเอ่ยแซว
“ก็พอๆ กันปะวะ” โจวชักแท่งร้อนของตนที่ตอนนี้แข็งจนเห็นเส้นเลือดปูดไปตามท่อนลำ
“ไม่แข็งก็ตายด้านละครับแม่งคับกางเกงกูอยู่เนี่ย ไอ้เมฆมึงคุมนะพวกกูอยากชักแล้ววะ” กั๊มหันไปคุยกับโจวก่อนจะหันกลับมาบอกเมฆที่ก้มดูดดุนยอดอก เมฆเงยหน้ามามองด้วยสายขุ่น รอบที่สามที่เขาโดนขัด
“สายตา นี่เพื่อนนะครับ เพื่อน” แทยังพูดเขาเองก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน กั๊มและแทยังปล่อยมือออก ปล่อยให้เมฆคุมเกมส์ ส่วนพวกเขาก็เริ่มแยกย้ายหาจุดของตัวเองบ้าง
“อะ อ๊า จ..จะเสร็จ อื้อ” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจนเลอะมือและหน้าท้องไปทั่ว หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงราวกับออกกำลังกายมาอย่างหนัก ผิวขึ้นสีชมพูสวยจนเมฆไม่สามารถละสายตาจากคนตรงหน้าได้ มือทั้งสองข้างถูกยกปิดหน้าเพื่อปิดซ่อนน้ำตาและความอายเอาไว้
“อย่าพึ่งเหนื่อยสิ พวกกูยังไม่ได้เริ่มเลยนะ” เมฆพูดขึ้นก่อนจะช้อนสะโพกขาวขึ้นจนลอยเด่นอยู่ตรงหน้า แทยังและกั๊มนั่งประกบทั้งสองด้านก่อนจะก้มลงดูดดุนหัวนมสีสด มือหนาก็ลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างเล็กของกิมจู
“หึหึ สีชมพูเชียวนะ” กิมจูเริ่มดิ้นหนีอีกครั้ง เมฆจับขาของกิมจูพาดบ่าก่อนจะจับล็อค มืออีกข้างก็ปาดน้ำรักที่ติดอยู่ตรงหน้าท้องเพื่อใช้เป็นสารหล่อลื่น นิ้วเรียวยาวลูบช่องทางที่ขมิบราวกับเชิญชวนให้เข้าไปสัมผัส ก่อนจะค่อยๆ กดนิ้วเข้าไปในช่องทางที่แสนคับแคบ
“ม..ไม่ อ๊าา ฮึก จ..เจ็บ” แรงบีบรัดที่นิ้วทำให้เมฆเลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความกระหาย แค่นิ้วยังรัดขนาดนี้ ยิ่งถ้าเป็นของเขาคงไม่ต้องพูดถึง
“อย่าเกร็ง”เมฆเริ่มขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้นแรงตอดรัดจากช่องทางมันทำให้เขาอยากจะถอนนิ้วออกแล้วจับกระแทกให้รู้แล้วรู้รอด
Tru Tru Tru ! ! !
เสียงโทรศัทพ์ของแทยังดังขึ้นทำให้กิจกรรมกามหยุดชะงัก แทยังหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกางเกงก่อนจะกดปิดเสียง ก่อนจะหันมายิ้มแห้งๆ กับให้เพื่อนของตน
“ฮึก อื้อออ” เมฆเริ่มขยับนิ้วอีกครั้งหลังจากที่โดนขัดจังหวะ ก่อนจะก้มลงจูบปากกิมจูด้วยความดุดัน ลิ้นหนาพยายามแทรกเข้าไปในโพลงปากบางแต่กิมจูกลับเม้มปากแน่นจนเมฆหงุดหงิด
“อ้าปาก” เมฆคลอเคลียแก้มใสไปมาสูดดมความหอมของคนตรงหน้า
“…..” กิมจูส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันหน้าไปด้านข้าง แต่กลับเจอกั๊มที่กำลังชักแท่งร้อนของตัวเอง แก่นกายที่แผ่ไอร้อน กระตุกเหมือนพร้อมจะพ่นพิษ หันหนีไปอีกทางก็เจอกับแก่นกายของแทยัง ทั้งความยาวและใหญ่มันช่างแตกต่างกับของเขาอย่างสิ้นเชิง
“ดื้อจังวะ” เมฆจับคางของกิมจูให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะบีบคางเพื่อให้กิมจูอ้าปาก
“อะ อื้อออ จ๊วบ ” ด้วยความเจ็บทำให้กิมจูอ้าปากออกมาจึงเป็นการเปิดโอกาสให้เมฆสอดลิ้นเข้ามา ลิ้นหนาไล่ต้อนลิ้นเล็กอย่างดุดันเอาแต่ใจ ทั้งดูดดุนจนกิมจูรู้สึกเจ็บแปลบ เมฆกัดที่ริมฝีปากล่างอย่างแรงจนเลือดซิบก่อนจะเลียเลือดที่ไหลออกมา นิ้วด้านล่างก็ยังคงขยับเป็นเข้าออกเป็นจังหวะ
“ทำไมกูต้องมาเป็นคนดูด้วยวะ” โจวสถบออกมาอย่างหัวเสียหลังจากที่ชักจนตัวเองแตกไปหนึ่งรอบ
“มันได้ตายกันพอดี แค่ไอ้เมฆคนเดียวแม่งก็จะไม่ไหวแล้ว” โคลต์พูดโดยที่ยังคงเดินถ่ายวิดีโอรอบด้าน ถึงอยากจะควักแก่นกายของตัวเองมาชักมากแค่ไหน เขาก็ต้องถ่ายวิดีโอนี้ให้จบ
“เข้าเหอะวะ กูว่ามันน่าจะได้แล้ว” แทยังบอกก่อนจะยกมือลูบหัวของกิมจูมืออีกข้างก็ชักแก่นกายที่พองโตของตนตามอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้น กั๊มนำแก่นกายที่ใกล้จะแตกเข้ามาถูกับแก้มใสของร่างเล็กก่อนจะปล่อยใส่หน้าของอีกฝ่ายจนเลอะไปทั่ว
“อะ อึก พ..พอแล้ว” กิมจูพูดด้วยเสียงแหบพร่าตอนนี้สมองขาวโพลนไปหมด เรี่ยวแรงที่มีก็โดนคนรอบด้านสูบไปจนหมด เมฆใช้มืออีกข้างเกลี่ยน้ำของกั๊มที่เลอะอยู่บนหน้าของร่างเล็กออก
“ผ่อนคลาย” เมฆดึงนิ้วออกจากช่องทาง ก่อนจะถอดกางเกงลงเล็กน้อย แก่นกายขนาดใหญ่ถูไปมาตรงบั้นท้ายก่อนจะค่อยๆ กดหัวเข้าไปในช่องทางที่เต้นตุบๆ ราวกับรอให้เขาเข้าไปเติมเต็ม
“อะ โอ๊ยยย ฮืออ จ..เจ็บบบ อ๊าาา” กิมจูเริ่มดิ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่ช่องทางราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ รู้สึกถึงบางอย่างที่ทั้งร้อนทั้งใหญ่กำลังแทรกเข้ามาในช่องทาง เมฆกัดฟันกรอดช่องทางที่รัดแน่นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปนเสียว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! ! !
“เชี้ยไรอีกวะ” เมฆชะงักแต่ยังคงค้างแก่นกายที่ใส่ไปได้แค่ส่วนหัว สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ประตูด้วยความสงสัยก่อนจะเห็นร่างสูงของแทยอนโผล่ออกมาจากอีกฝั่งของประตู เมฆเสยผมด้วยความหงุดหงิด จะเอาก็ไม่ได้เอาแม่งมันวันเฮงซวยอะไรวะ
น่าสงสารเมฆ 5555+
คิดถึงกันมั้ยรีดที่น่ารัก