[END]
“พี่กรีนไปแล้ว! 0[]0!!”
“อือ ไปตอนกูไปตามมึงนั่นแหล่ะ”
“แล้วทำไมไม่บอกกู”
“กูก็เพิ่งรู้เหมือนกันครับเมีย”
“มึงอะ.. . :(”
“ให้มันไปซะได้ก็ดี เห็นทำเสียงเศร้าทุกวันอย่างกับคนอมทุกข์”
“ทำไมล่ะ?”
“กูก็ไม่รู้ ไม่อยากถาม เมื่อยปาก”
“-*-!!”
“อะไร จ้องหน้ากูไม”
“มึงนี่แม่ง...! พี่มึงทั้งคนนะเว้ย”
“หน่ะๆ เลิกพูดเรื่องกรีนเถอะน่ะ สนแค่เรื่องเราจะดีกว่าไหม”
จริงสิ ผมเกือบลืมไปแล้วเชียวว่ามาที่นี่ทำไม ณ บ้านหลังใหญ่ของไอ่กัส ...ผมมาที่นี่เพราะถูกคุณลุงเรียกตัว
กึก หมับ!
ผมรีบกระตุกชายเสื้อไอ่กัสไว้ ทำเอามือหนานั่นคาค้างอยู่ตรงกลอนประตู
“อะไร -*-”
“กู...”
“ไม่ต้องกังวลหรอกน่ะ กูบอกแล้วไง ต่อให้เขาว่ายังไงกูก็ไม่สนทั้งนั้นแหล่ะ”
ไอ่กัสกระชากเสียงใส่ ก่อนจะเปิดประตูโพล่งเข้าไปเลย ภายในห้องมีชั้นวางสือเรียงล้อมรอบโต๊ะทำงานที่อยู่กลางห้อง และตอนนี้คุณลุงเองก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะนั่น ด้วยสภาพที่สวมแว่นตาและมองมายังพวกผม
แว๊บแรก เชื่อไหมล่ะว่าผมเห็นภาพซ้อนทับเป็นไอ่กัสแว่น
“ไม่มีใครสอนรึไงว่าก่อนเข้าห้องให้เคาะประตู”
“ใช่ครับ เผอิญที่บ้านไม่ค่อยมีเวลาอบรมเท่าไหร่”
เปรี้ยะ!
ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานอำมหิตมหาศาล จริงอยู่ที่ไอ่กัสเล่าให้ฟังว่ามันพอจะรู้แล้วว่าพ่อไม่ได้เกลียดตัวเอง ส่วนคุณลุงเอง ผมว่าก็คงพอจะรู้ว่าไอ่กัสไม่ได้เกลียดตัวเองเช่นกัน
แต่ที่ยังเป็นแบบนี้... ‘ฟอร์ม’ ไงล่ะ
“เอ่อ... คุณลุงเรียกผมมา ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ”
“มี”
พูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป เอ้อ! เออ เอากันเข้าไป พ่อจ้องลูก ลูกจ้องพ่อ คุยกันไม่เสร็จหรอกวันนี้
“ขึ้นไปแต่งตัวข้างบนซะ อีกครึ่งชั่วโมงลงที่นี่”
พูดจบ คุณลุงก็เดินเอามือไขว่หลังออกไปเลย ไม่ถงไม่ถามสุขภาพผมสักคำ และในขณะที่กำลังยืนมึนกันทั้งคู่ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก พร้อมแม่บ้านสองคนที่ผายมือเชิญเราขึ้นไปข้างบน
ชุดสูทสีดำสุดหรูถูกยื่นมาให้ผมกับไอ่กัส พอถามอะไรไปแม่บ้านพวกนั้นก็บอกไม่รู้ ได้รับคำสั่งมาแค่นี้ ผมกับไอ่กัสจึงจำต้องเปลี่ยนชุดไปโดยไม่รู้เรื่องอะไรสักนิด เมื่อเปลี่ยนเสร็จผมกับไอ่กัสก็เดินลงมาชั้นล่าง เพื่อจะมาถามคุณลุงให้เคลียร์ แต่ก็พบว่าคุณลุงออกไปข้างนอกแล้ว
เอ้อ! นั่น เอาเลยดิ งงกันเข้าไป มีงงกว่านี้อีกไหมล่ะ
“ขอโทษนะครับ คุณพิกัสโซ่ คุณปลาวาฬ เชิญขึ้นรถเลยครับ เดี๋ยวไปงานไปทัน”
งาน !? เหอๆ ตึ้บเลยไงกู @.@
‘งานเลี้ยงเปิดตัวบริษัท JS’
ผมสาบานได้เลยว่าผมไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับเจ้าของบริษัทนี่เลยนะ แล้วพาผมมาที่นี่ทำไม ??
“มึงรู้จักเจ้าของงานเหรอวะ”
“โง่ปะ กูก็มาพร้อมมึง จะไปรู้ได้ไง”
“ตอบดีๆหน่อยดิ๊”
“ก็หงุดหงิด ทำเหมือนกูเป็นหุ่นเชิด ดูดิ พากูมาห่าที่ไหนไม่รู้ กูบอกมึงตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องไปทำตาม !”
ไอ่กัสดันลิ้นเข้ากระพุ้งแก้มอย่างเซ็งๆ มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงด้วย กรรม เสียบุคลิกหมดเลยมึง
“ยืนให้มันดีๆหน่อยดิวะ”
ผมว่าพร้อมดึงมือมันออกจากกระเป๋ากางเกง ไอ่กัสจิ๊ปากใส่นิดหน่อย แต่ก็ยอมทำตาม
“กูว่าไหนๆก็มาแล้ว รอบเดินดูงานหน่อยเถอะว่ะ”
ผมพูดพลางจับจ้องสายตาไปยังโต๊ะบุฟเฟ่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล หืมมม น่ากินสัดๆ
“หิวก็บอกเหอะ”
ไอ่กัสพูดอย่างยิ้มๆก่อนจะเดินจูงมือผมไปยังโต๊ะบุฟเฟ่นั่น แต่เมื่อจับรังสีสายตาจากคนรอบข้างได้ ผมจึงขืนมือตัวเองออกมา
ลืมไปเลยสินะว่าผู้ชายกับผู้ชายจับมือกันมันเป็นเรื่องแปลก
“ดึงมือออกไปทำไม”
“...” ถ้าผมตอบความจริงออกไปมันจะเสียใจไหม “ก็มึงเดินช้า ไม่ได้ใจเลย”
ผมว่าก่อนจะเดินนำลิ่วไปยังโต๊ะบุฟเฟ่ที่มีอาหารเรียงรายเต็มโต๊ะ มือผมรีบหยิบจานขึ้นมาตักนู่นตักนี่ที่น่ากิน แต่ยังไม่รู้ว่าจะกินได้รึเปล่า บางอันมันก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อนนิครับ
“ตระกละนะมึง ตักแค่พอดีดิวะ จะล้นจานแล้วเนี่ย”
“ทำไม อายอ่อ?”
“เออ เดี๋ยวเขาจะหาว่ากูเลี้ยงเมียไม่ดี”
ป้าป
“ชู่ว์!”
ผมตีต้นแขนเตือนมัน พูดซะดัง คนอื่นนี่หันมามองกันให้พรึ่บ
“ทำไม กูกับมึงทำอะไรผิดรึไง”
“...”
ไม่รู้สิ ถ้ามันไม่ผิดแล้วทำไมคนอื่นถึงไม่ยอมรับกันล่ะ ?
“แดกไปเถอะ คิดมากอะไร”
ไอ่กัสพูดอย่างไม่แยแส ก่อนจะจิ้มเนื้อปลาดิบเข้าปากผม แต่เดี๋ยว! อันนี้ผมตั้งใจจะตักให้มัน ไม่ได้จะกินเอง ผมไม่กินปลาดิบ!
ซึ่งเรื่องนี้มันก็รู้ดี
ดูดิ มือนี่ผิดปากผมไว้แน่น พร้อมกลั้นขำอย่างสุดฤทธิ์ แม่งงง ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องแดกดิ TT
“อยู่ที่นี่กันนี่เอง”
เสียงเย็นที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้น ผมรีบผละออกจากมือไอ่กัสก่อนจะหันไปมองคุณลุงที่มาใหม่ พร้อมคณะไฮโซ สายตาคุณลุงมองพวกเราด้วยแววตานิ่งเฉย แต่สายตาคนอื่นเนี่ยสิ
รังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
ใจผมปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูก ผมกลืนน้ำลายลงคอ ทำตัวไม่ถูกไปหมด
“สองพี่น้องดูสนิทสนมกันจังเลยนะคะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา ผมว่าเธอรู้ แต่ก็แค่ถามหยั่งเชิงตามประสาคนสวมหน้ากาก ผมที่กำลังจะเอื้อมมือขึ้นคล้องคอไอ่กัสเพื่อแสดงบทเป็นพี่น้องจำแลง ก็กลับชะงักลง เพราะ...
หมับ
มือหนาของไอ่กัสโอบเอวผมไว้พร้อมรั้งตัวผมเข้าใกล้ไปอีก
“อุ้ยตาย 0_0”
แต่ละคนต่างเบิกตาตกใจ พร้อมยกมือปิดปากกันทั้งคณะ
“งานจะเริ่มแล้ว ไปกันเถอะครับ ส่วนแกกับแฟนแกก็ตามฉันมาด้วย”
คุณลุงพูดทิ้งระเบิดไว้ตู้มใหญ่ก่อนจะเดินเอามือไขว่หลังออกไป คณะไฮโซนั่นเลยเดินออกไปตามๆกัน
‘แกกับแฟนแก’
ถึงน้ำเสียงจะดูนิ่งมาก แต่กลับทำผมอมยิ้มออกมานิดๆ ส่วนไอ่กัสน่ะเหรอ
“กูว่ากูอาจจะได้พ่อคนเดิมกลับมาแล้วว่ะ”
มันดูนิ่งไม่ต่างจากคุณลุง แต่ผมรู้นะ ว่ามันเองก็ดีใจเหมือนกัน นี่ผมกำลังได้รับการยอมรับแล้วใช่ไหม? หรือทั้งหมดนี่จะคือแผน
‘แผน’ คงเป็นตรรกะประจำตัวสำหรับครอบครัวนี้ซะจริง
“ไปเถอะ”
@Secret
เหตุการณ์ที่ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นถึงเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง นำลูกชายมาเปิดตัวพร้อมแฟนลูกชายซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ สร้างความฮือฮาจากแขกผู้ร่วมงาน ทำเอาประเด็นเรื่องเปิดตัวบริษัทใหม่กร่อยไปเลยทันทีเพราะถูกแย่งซีน
ทั้งที่เรื่องนี้ต้องสร้างความหงุดหงิดให้กับเจ้าของงาน แต่กลับไม่ ในทางตรงข้าม กลับสร้างรอยยิ้มเล็กๆให้เจ้าของงาน ที่เป็นหนุ่มลูกครึ่งไฟแรงวัย 27 ปี
“คุณเจสันครับ ต้องเริ่มงานแล้วครับ”
แล้วเจอกันนะครับ คุณเจ้าของบริษัทนำเข้า-ส่งออกเฟอร์นิเจอร์
บทส่งท้าย
ปลาวาฬ : นี่ ถ้ามึงย้อนเวลากลับไปได้ มึงจะกลับไปเปลี่ยนอะไร
พิกัสโซ่ : ไม่รู้สิ... มึงมั้ง
ปลาวาฬ : ทำไมอะ *งอน*
พิกัสโซ่ : กูแค่อยากจะลองเป็นคนที่ถูกรักก่อนบ้าง
ปลาวาฬ : ฮ่ะๆ ไร้สาระ
ปลาวาฬยิ้มขำในใจ เมื่อนึกถึงเรื่องบางเรื่องที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
‘เฮ้ยมึงงง มึงรู้ป่ะ เรื่องไอ่แว่นในคลาสอะ มัน...’
‘หยุด!-*-’
‘อ่าว ทำไมวะไอ่ฮัก เรื่องนี้เด็ดจริงๆนะเว้ย’
‘เรื่องไอ่แว่นก็เด็ดทุกเรื่องอะสำหรับมึง มึงเอาแต่เล่าเรื่องมันทั้งวัน พวกกูเบื่อเป็นนะเว้ย เปลี่ยนคนอื่นบ้างไม่ได้เหรอวะ’
‘กูเห็นด้วยกับไอ่เบียร์เลย เปลี่ยนคนดิ๊’
‘พอๆ จะนินทาอะไรคนอื่นอีก ถ้าเด็กในประเทศหันมาตั้งใจเรียนเหมือนที่พวกมึงตั้งใจนินทาชาวบ้าน กูว่าประเทศคงเจริญอะ’
‘โห่.. . จี๊ดว่ะเพื่อนนาว’
ทุกครั้งที่มีการหันหน้าเข้าหากันแล้วเริ่มประเด็นนินทาขึ้น เรื่องทุกเรื่องที่ออกจากปากปลาวาฬมักจะมีแต่เรื่องราวของเด็กแว่นในคณะของตน แถมยังมักจะเล่าออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นเสมอ ทั้งที่บางก็มันก็แค่เรื่องปกติ...
ขอถามอีกครั้ง ‘ใครรักใครก่อน ?’
บางทีความรักมันก็ไม่ได้ถูกกำหนดว่าต้องเพศไหนคู่กับเพศไหน หรือ ใครคู่กับใครบ้าง
ความรักมันก็แค่เรื่องระหว่างคนสองคนที่ใช่ซึ่งกันและกัน ...ก็แค่นั้น
THE END
แล้วนะ –[]-
ขอบคุณที่ติดตามกันมากๆเลยนะ ปิดเรื่องในวันพ่อ ฤกษ์ดีซะจริง
สุดท้ายก็อยากจะบอกเลยว่า รักคนอ่านทุกคน ขอบคุณทุกเม้นทุกกำลังใจสำหรับนิยายเรื่องแรก
ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ ขอคอมเม้นส่งท้ายกันหน่อยนะ ขอบคุณค่ะ