ยุพิน
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเสร็จแล้ว สำหรับไข่ต้มคงเรียกว่ากินได้อยู่หรอก แต่กับหญิงสาวเรียกว่าดมคงเหมาะกว่า ไข่ต้มพาเกลินกลับห้องเพื่อไปจัดข้าวของที่เกลินนำมาด้วย กว่าจะเสร็จก็ล่อเวลาไปหลายชั่วโมง ตอนที่หญิงสาวค้นของในกระเป๋าออกมาทำให้ไข่ต้มถึงกับตะลึง ของที่หญิงสาวนำมาด้วยเยอะเสียจนน่าตกใจ อีกทั้งยังเสื้อผ้าแต่ละชุดของเธอคนนี้ราวกับจะไปเดินแบบ จากนั้นไข่ต้มจึงพาสาวร่างบางไปอาบน้ำที่ห้องน้ำซึ่งแยกออกมาจากเรือนพักหญิง
“เข้าไปสิ ยืนรอให้ยุงมันกัดตายหรือไง” ไข่ต้มว่าพลางดันตัวเกลินเข้าไป
“ไข่ต้ม น้ำในถังนั่นสะอาดหรือเปล่า” เกลินที่ยืนกอดกระเป๋าที่ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กซึ่งข้างในบรรจุไปด้วยเครื่องบำรุงผิวต่างๆ
“คงสะอาดหรอกมั้ง คนงานเค้าก็ใช้กันได้ มันเป็นน้ำบาดาลที่ถูกสูบออกมาจากตรงโน้นน่ะ” ไข่ต้มว่าพลางทำปากยื่นไปตรงจุดที่มีเครื่องสูบน้ำอยู่ซึ่งกำลังส่งเสียงครืดๆ บ่งบอกว่าขณะนี้ทำงานอยู่
“หนูเกลขออะไรอย่างได้ไหม หนูเกลเห็นขวดน้ำในห้อง หนูเกลขอได้ไหม” เธอรู้สึกผิดที่ต้องทำให้ไข่ต้มลำบากอยู่เรื่อย แต่เธอจะไม่ยอมให้เอาน้ำที่สะอาดหรือเปล่าก็ไม่รู้มาใช้กับผิวเธอเด็ดค่ะ ถ้าหากเป็นสิวขึ้นมาคงหมดสวยแย่
“เธอจะเอามาทำอะไร หิวน้ำหรอ กลับไปค่อยกินได้ไหม” บอกว่ามือก็ตบยุงไปด้วย
“หนูเกลเอามาล้างหน้า ผิวหนูเกลแพ้ง่าย นะไข่ต้มนะ” เจ้าหล่อนว่าพลางทำตาปริบๆ ซึ่งถ้าเป็นเวลาปกติคงน่ารักน่าดู
“เออๆ เดี๋ยวไปเอาให้ รออยู่ตรงนี้แล้วกัน ให้เฉพาะวันนี้วันเดียวนะ” ไข่ต้มทำหน้ามู่ ในใจก็นึกสงสารหญิงสาวที่ต้องมาลำบากแบบนี้ จึงยอมเดินกลับไปห้องเพื่อไปเอาน้ำให้
เมื่อได้น้ำแล้วคนผิวแพ้ง่ายรีบจัดการล้างหน้าล้างตาพร้อมทาครีมบำรุงต่างๆ โดยมีไข่ต้มอาบน้ำอยู่ห้องข้างๆ แต่เกลินกลับไม่ได้อาบน้ำ ด้วยกลัวว่าไข่ต้มจะสงสัยจึงตักน้ำในถังราดลงพื้นเพื่อให้เกิดเสียง ‘ไม่เอานะ หนูเกลจะไม่เสี่ยงเด็ดขาด กว่าจะดูแลได้ขนาดนี้นะหมดไปเยอะ ถึงแม้ว่าผิวหนูเกลจะดีอยู่แล้วก็เถอะ’ คิดไปด้วย ทำหน้าภูมิใจไปด้วย
เมื่อไข่ต้มและเกลินอาบน้ำเสร็จแล้วทั้งสองจึงเดินกลับเรือนพักคนงานหญิง แต่ก่อนที่จะได้เข้าห้องก็มีเสียงดังทักขึ้นมาก่อน
“อ้าวนางไข่ต้มนั่นใครอ่ะ” ยุพินสาวที่เคยสวยที่สุดในไร่แต่ตั้งแต่มีเกลินเข้ามาก็ต้องตกอันดับ ทำงานในตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีให้ไร่นี้ มีหนุ่มๆในไร่มาชอบเยอะแยะมากมาย ร้องทัก
“นี่เกลิน คนงานมาใหม่” ไข่ต้มตอบอย่างรำคาญ
“โอ้ยที่เค้าลือกันว่าสวยนักหนา ก็ไม่เห็นจะสวยเท่าไหร่เลย มาอยู่ใหม่ก็รู้จักเคารพคนอื่นบ้างนะ ฉันชื่อยุพินอยู่นี่มาตั้งแต่เกิด” พูดเหมือนจะเกทับให้หญิงสาวกลัวตนเอง
“การเคารพคนอื่นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครอยู่ก่อนอยู่หลังหรืออยู่นานแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของคนคนนั้นนะไข่ต้ม” คนโดนเกทับหันไปพูดกับสาวร่างท้วมข้างๆ
“นี่แกว่าฉันปฏิบัติตัวไม่ดีหรอ” ยุพินถึงกับโมโห
“อยากรับก็รับค่ะ ฉันพูดกับไข่ต้ม” หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“หน้อยแก! ไม่รู้ซะและว่าเล่นกับใคร”
“พอๆ นางยุพินอยู่ใครอยู่มันไม่ต้องมายุ่งกับพวกฉัน ป่ะเกลเข้าห้อง” ก่อนที่ยุพินจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ไข่ต้มก็พูดขัด คนโดนชวนเข้าห้องเบ้ปากใส่ยุพิน
“เกลไม่ต้องไปยุ่งกับพินมันนะ เดี๋ยวจะซวยไม่รู้ตัว” พอเข้ามาในห้องแล้วสาวร่างท้วมเดินไปตากผ้าเช็ดตัวบนราวที่ตั้งอยู่มุมห้องพร้อมหันมาพูดกับคนที่เดินตามเข้ามาด้วยความเป็นห่วง
“เอาหน่าหนูเกลไม่ยอมให้เค้ามาทำอะไรหนูเกลได้ง่ายง่ายหรอก”
“ป่ะๆ ปิดไฟนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเก็บใบชา เดี๋ยวจะตื่นไม่ไหวกัน” เกลินล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานที่สุดวันหนึ่งในชีวิตเลย
สาวหน้าสวยตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างด้วยความอ่อนเพลียเนื่องจากเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับและอาจจะเป็นเพราะแปลกที่แปลกทาง อีกทั้งด้วยความไม่สบายตัวที่ตนไม่ได้อาบน้ำเมื่อคืนนี้ เหมือนเช่นเคย เช้านี้หญิงสาวตื่นก่อนไข่ต้มและแอบเอาขวดน้ำที่ตั้งอยู่มุมห้องไปล้างหน้าก่อนที่เพื่อนร่วมห้องของเธอจะตื่นมาเห็นเข้า แน่นอน เธอไม่ได้อาบน้ำเช่นเคย เกลินแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบซึ่งไม่เหมาะกับการจะไปเก็บใบชาสักเท่าไหร่ แต่นี่เป็นชุดที่ดูจะทำทะมัดทะแมงที่สุดแล้ว
เช้านี้ยังดีที่คนต่างถิ่นอย่างเกลินสามารถทานอาหารได้เนื่องจากไข่ต้มแจ้งให้แม่ครัวทราบแล้วว่าช่วยทำอาหารที่เผ็ดน้อยๆหน่อย ถึงแม้สีหน้าของแม่ครัวจะไม่พอใจที่โดนสั่งแต่ก็ทำให้เพราะการขอร้องอ้อนวอนของไข่ต้มแต่ก็ไม่วายถูกยุพินถากถาง
หลังจากทานเข้าเช้าเรียบร้อยแล้ว เกลินก็ไปเก็บชา ถึงแม้จะเก็บด้วยความเชื่องช้าเพราะไม่เคย แต่ก็ได้ครูดีอย่าไข่ต้มคอยบอกคอยสอน เมื่อเริ่มสายมา พระอาทิตย์เริ่มแผลงฤทธิ์ทำให้ คุณหนูอย่างเกลินเริ่มร้อน เหงื่อเริ่มไหล การเป็นคุณหนูของเกลินจากที่ไม่เคยทำงานกลางแดด อยู่แต่ในห้องแอร์ จึงทำให้เหงื่อออก เกลินรู้สึกคันตามเนื้อตามตัวจึงขอไข่ต้มกลับเรือนพักหญิงเพื่อไปอาบน้ำ เกลินไม่สนแล้วว่าเธอจะแพ้น้ำหรือไม่
เมื่อหญิงสาวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถือโอกาสนี้ในการโทรหาสิตาเพื่อนรักที่อังกฤษ
“ฮัลโหลสิตา นี่หนูเกลเองนะ” รู้ว่าตอนนี้เพื่อนกำลังงัวเงี่ย
‘เกล แกจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ นี่มันตีสี่นะเว้ย’ เสียงของสิตาง่วงเต็มทน
“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกแก”
‘รีบๆพูดมาฉันจะนอน’
“แกเห็นการนอนสำคัญกว่าฉันเหรอวะ ฉันคิดแผนออกแล้วนะเว้ยว่าฉันจะทำยังไงให้ตานั้นลืมแฟนเก่า”
‘ว่ามา รอฟังอยู่ รอฟังจนจะแก่ตายแล้ว’
“อย่ามาเว่อร์ ฉันว่าฉันต้องหาผู้หญิงให้เค้า”
‘บนเขาบนดอยยังงั้น กะจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาให้’
“ก็ฉันนี่ไง”
‘เฮ้ยเกล ลงทุนขนาดเอาตัวเข้าแลกเลยเหรอวะ’ จากที่งัวเงียกลายเป็นตื่นเต็มตา
“มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น ก็แค่ทำให้เขาชอบฉันแล้วเค้าก็ลืมแฟนเก่าเค้า จากนั้นฉันก็กลับบ้านแค่นั้น จบ!”เกลินพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
‘แล้วแกมั่นใจได้ไงว่าเค้าจะชอบแก’
“โหฉันสวยขนาดนี้ร้อยละร้อย ชอบชัวร์”
‘เค้าชอบแก แล้วแกก็ทิ้งเค้าเนี่ยนะ’ สิตากำลังสงสัยว่าเพื่อนตนคิดอะไรอยู่
“ก็ใช่ไง ฉันอยากจะสั่งสอนเขา ฉันอยากให้เค้ารู้ว่า ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบเค้า งานนี้มีแต่ได้กับได้” เกลินเบ้ปากเมื่อนึกถึงหน้าชายหนุ่ม
‘แล้วแกเกลียดอะไรเค้านักหนาวะ’
“ก็เค้านี่แหละคือคนที่ฉันเจออยู่สนามบินตอนกลับมาไทย คนเดียวกับที่ฉันเล่าให้แกฟัง”
‘ห้ะ นี่โลกจะกลมไปไหม แล้วก็ระวังเถอะ แก้แค้นเค้าแต่เกิดหลงรักเขาขึ้นมาซะเองแล้วแกจะแย่’
“พอ ไม่คุยกับแกแล้ว มาบอกแค่นี้แหละ แกนอนไปเหอะ”
‘อ้าว ไอ้เกลนี่ คิดจะโทรมาก็โทร คิดจะวางก็วาง อืมๆ ดูแลตัวเองดีๆนะ’ หลังจากวางสายสิตาล้มตัวลงนอน แต่ตอนนี้กลับนอนไม่หลับ คิดไม่ตกเป็นห่วงเพื่อน
ทางเกลินกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับแผนการของตนเอง “พ่อเลี้ยงกวินทร์ นายต้องมาขอร้องอ่อนวอนไม่ให้ฉันไป!!”