ตอนที่****15
ชีวิตที่เริ่มวุ่นวาย
ออด…
ออดๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผาง!!!
“อาจารย์ครับบบบ!”
“นะ…นี่พวกนาย…บ้านช่องไม่มีให้กลับหรือไง”
มองสองคนที่เสนอหน้ามาทั้งที่ไม่ได้ชวนอย่างรำคาญ ราชินีเสมองไปทางอื่นแบบไม่สนใจคำพูดของผมขณะที่จอมฟ้ายิ้มร่าไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
ผมกำลังพูดเป็นนัยๆว่าพวกเขาน่ารำคาญนะ
เขช้าใจคำว่าน่ารำคาญไหม!
เมื่อคืนนี้แทบจะไม่ได้นอนเลย หลังจากกัดคอเจ้าลิงหัวแดงไปด้วยปล่อยให้อารมณ์เข้ามาอยู่เหนือเหตุผล เจ้าบ้านั่นแน่นิ่งไปเกือบนาที ไอ้เราก็นึกว่าคงจะเขินหรืออายจนหมดแรง ที่ไหนได้…
พลิกสถานการณ์มากดหัวผมให้ฝังลงกับคอกะจะให้ผมลวนลามมากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นว่าสุดท้ายผมเลยต้องจับไต้ฝุ่นมัดเอาไว้ในผ้านวมไม่ให้ขยับได้อีก ไม่อย่างัน้นเมื่อคืนคงโดนยั่วจนตบะแตกห้ามไม่อยู่ชัวร์!
เพราะเหตุผลนั้นตอนนี้ผมเลยมีสภาพไม่น่าดูสุดๆ
ง่วงนอนจนให้ยืนหลับก็ยังทำได้ แต่เพรากลัวว่าหากหลับไปอาจถูกเจ้าลิงหัวแดงทำอะไรตอนหลับอีก คราวนี้คงได้เป็นผัวมันแบบไม่รู้ตัว
“อ้าว พวกนาย”
เจ้าตัวต้นเหตุเดินสบายอารมณ์ออกมาจากในห้อง วันนี้ผมถ่างตาตลอดทั้งวันเพื่อจะไม่หลับจนกว่าเจ้าลิงหัวแดงจะยอมกลับบ้าน แต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมโทรตามคนที่บ้านมารับเสียที จะไล่กลับไปก็กลัวน้อยใจจนไปมีเรื่องชกต่อยอีก
ชาติก่อนทำกรรมอะไรกับลิงไว้หรือเปล่านะเรา
“ฝุ่น! ดีขึ้นแล้วเหรอครับ”
“อื้อ ดีขึ้นมาก…เอ๋!!! มะ…เมื่อกี้นายพูดกับฉันเรอะ!”
ตกใจตาโตพลางวิ่งมากระโดดกอดแขนผมหนึบ เดี๋ยวนะ… ตกใจจอมฟ้าแล้วทำไมต้องมากอดแขนฉัน?
“หมอนี่ไม่กลัวนายแล้ว”
ราชินีตอบแทน พอรู้แบบนั้นจากที่กอดแขนผมในตอนแรกก็กระโดดก้าวเดียวถึงตัวจอมฟ้า มือทั้งสองแขนคว้าแขนคนตัวเล็กกว่าเล็กน้อยเข้าไปกอดอย่างดีใจ
“ฉันดีใจที่เลยไอ้จอมที่นายไม่กลัวฉันแล้ว ไชโยๆๆๆๆ”
“อ๊ะ กอดแรงไปแล้วนะฝุ่น ผมเจ็บ”
“ดีจังเลยๆๆๆ จากนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม ใช่ไหม”
“อื้อ ครับ พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว”
“อ๊ากกก ดีใจโว้ยยยยย!”
เจ้าลิงหัวแดงเอาแก้มถูไถกับแก้มของจอมฟ้าอย่างดีใจ ผมจ้องไปที่แก้มขาวซึ่งยังเหลือรอกฟกช้ำเล็กน้อยทีก่ำลังสีไปสีมากับแก้มของคนอื่น (ถ้าไม่ใช่ผมถือเป็นคนอื่นหมดนั่นแหละ)
จ้อง..
แล้วก็จ้อง…
แล้วก็จ้องก็จ้อง…
หมับ! หมับ!
ราวกับนัดกันมา ผมตรงเข้าไปดึงไต้ฝุ่นออกมาจากจอมฟ้าเหมือนกับเทียร์ที่เข้ามาหิ้วปีกจอมฟ้าออกไปจากไต้ฝุ่น
พวกเราต่างมองหน้ากันก่อนจะสื่อสารคำพูดบางประโยคผ่านสายตา
‘ทำดีมาก เทียร์’
‘ทำดีมากครับ อาจารย์’
“อะไรเนี่ยชูจิ ผมจะเล่นกับไอ้จอมนะ”
ร่างเล็กเงยหน้ามองผมอย่างขัดใจ กับคนที่แค่เล่นเฉยๆไม่ได้ต้องถึงเนื้อถึงตัวแบบนายให้ตายฉันก็ไม่ให้เล่นกับใครเด็ดขาด
“ชูจิ? เรียกชื่อกันแล้วเหรอ”
“โอ๊ะ! นายก็รู้ชื่อของชูจิใช่ไหมเทียร์ ชูจิอนุญาตให้ฉันเรียกล่ะ”
“วงเล็บว่าห้ามเรียกต่อหน้าคนอื่น”
ผมต่อประโยคให้จนจบ ไต้ฝุ่นเม้มปากแน่น รู้สึกตัวแล้วว่าเผลอเรียกชื่อผมต่อหน้าเจ้าสองคนนี้ไป ช่างเถอะ ยังไงสองคนนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ให้รู้เรื่องเรียกชื่อเพิ่มคงไม่มีอะไรเสียหายมากนัก
“จริงสิ อาทิตย์หน้าอาจารย์ก็จะกลับไปประจำห้องพยาบาลตามเดิมแล้วใช่ไหมครับ”
“อืม”
เหลือเวลาอีกแค่สองวันเท่านั้นสินะ…
“จะว่าไป…อาทิตย์หน้าเป็นวันประกาศรายชื่อเด็กอภิสิทธิ์ที่ถูกถอดถอนออกให้กลายเป็นไร้ประโยชน์แทนจากการออกค่ายแล้วด้วย ไม่รู้จะเป็นใครนะครับ”
“เออใช่ ฉันลืมเรื่องนั้นไปเลย!”
ผมลอบมองไต้ฝุ่นที่ดูกระตือรือร้นเมื่อเป็นเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคิดจะเอาตัวเองไปเสี่ยงอีกแน่ๆ
“คงไม่ได้คิดจะเข้าไปวุ่นวายใช่ไหม?”
“ไม่เอาน่าชูจิ ชูจิก็น่าจะรู้ดีว่าผมต้องมีเอี่ยวอยู่แล้ว”
รอยยิ้มปิศาจผุดขึ้น ก่อนจะมาว่าตัวเองต้องมีเอี่ยวแน่นอนอยู่แล้วก็ช่วยนึกถึงคนอื่นที่เขาต้องตามไปช่วยซะมั่งเซ่!
“ฉันว่าครั้งนี้นายอย่ายุ่งดีกว่า”
เทียร์ขัดขึ้น ใบหน้าสวยเย็นชาเปรยตามองมองไต้ฝุ่น
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันได้ยินมาว่าเด็กอภิสิทธิ์ที่ถูกลดขั้น…คนที่จะลงโทษเด็กคนนั้นก็คือ…แฟนธ่อม”
“แฟนธ่อมจะลงมือเองเหรอครับ?”
จอมฟ้าเงยหน้าขึ้นถาม เจ้าคนหน้านิ่งพยักหน้ารับ
“แบบนั้นยิ่งน่าสนุก เท่ากับว่าเป็นการเดิมพันว่าฉันจะช่วยเด็กคนนั้นมาจากแฟนธ่อมได้หรือไม่ และถ้าฉันชนะได้ พวกนายคิดว่าฉันจะสามารถเปลี่ยนแปลงมหา’ลัยเส็งเคร็งนั่นได้ไหมล่ะ!”
“เปลี่ยนแปลง?”
“ใช่ ฉันต้องการเปลี่ยนแปลงมหา’ลัยที่เต็มไปด้วยกฎบ้าๆที่แฟนธ่อมตั้งขึ้น มหา’ลัยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทุเรศ เบื้องหลังเต็มไปด้วยความดำมืดแบบนั้น ฉันอยากจะชำระล้างมันให้หมดเลย!”
“อย่าพูดเหมือนง่ายนักเลย นักศึกษาที่นี่ส่วนใหญ่เสียเงินตั้งเท่าไหร่กว่าจะได้เข้ามาเรียนนายรู้หรือเปล่า และแฟนธ่อมคือผู้ยิ่งใหญ่ที่ควบคุมทุกคนได้ นายจะเอาอะไรไปสู้ เอาอะไรไปโค่นล้มแฟนธ่อมและเปลี่ยนแปลงมัน? ต้องเจ็บตัวอีกเท่าไหร่กับความคิดบ้าๆนี่ของนาย”
เป็นการเถียงกันครั้งแรกของไต้ฝุ่นกับเทียร์
เป้าหมายของเจ้าลิงหัวแดงคือการเปลี่ยนแปลงมหา’ลัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของแฟนธ่อมให้เป็นมหา’ลัยที่สะอาดทั้งภายนอกและภายในไร้ความดำมืด
ขณะที่เทียร์ไม่ต้องการให้เขาทำเพราะมันไม่มีวันทำได้นอกจากหาเรื่องเจ็บตัวไปวันๆ
จะว่าไป…พอได้ฟังสองคนนี้เถียงกันมันทำให้ผมสงสัยบางอย่างขึ้นมา เป้าหมายของแฟนธ่อมล่ะ? หมอนั่นมีเป้าหมายอะไรถึงได้เปลี่ยนมหา’ลัยนี้ให้เต็มไปด้วยความเลวร้ายแบบนั้น แล้วทำไมท่านอธิการถึงปล่อยให้เด็กอัจฉริยะคนหนึ่งทำตามใจชอบได้ขนาดนี้?
“แล้วไงล่ะ”
“…”
“แค่เพราะคิดว่าไม่มีวันทำได้ แค่เพราะคิดว่ามันทำอะไรไม่ได้ก็เลยจะให้ยอมถอดใจงั้นเหรอ! แบบนั้นมันก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอกเฟ้ย!”
“…”
“ฉันแค่อยาก…ให้มหา’ลัยนี้เป็นสถานที่ที่คอยมอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่เลือกเข้าศึกษาต่อที่นี่ เป็นสถานที่ที่จะสามารถหาเพื่อนแท้ได้และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป ฉันน่ะ…คนอย่างฉันน่ะ ต่อให้ความหวังตรงหน้าจะเล็กเท่าไข่มดแดงแต่ฉันก็จะไม่เลิกหวัง! ฉันต้องเอาชนะแฟนธ่อมให้ได้ต้องเปลี่ยนแปลงมหา’ลัยเฮงซวยแห่งนี้ให้ได้ จำคำฉันใส่หัวเอาไว้เลย!”
อ่า…
งานเข้าแล้วสิ
ปิศาจหัวแดงของผมดูเหมือนจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากๆ คงต้องเหนื่อยกับการต่อสู้ครั้งนี้ไปอีกนานแน่เรา
หมับ!
“ผมด้วยครับ!”
“…”
“ผมก็จะช่วยฝุ่นด้วย จะร่วมมือทุกอย่างเท่าที่ทำได้เลย!”
“จอมฟ้า!”
“เทียร์! ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเองเคยถูกกลั่นแกล้งมาก่อน ความรู้สึกหวาดกลัวตอนโดนแกล้งมันเจ็บปวดมากเลยนะครับ เพราะงั้น…ตอนที่เห็นพวกเด็กไร้ประโยชน์ถูกลงโทษทั้งที่มันไม่จำเป็นเลยผมถึงโกรธมาก แต่ก็ทำได้แค่โกรธเพราตัวผมไม่ได้มีความกล้ามากพอที่จะช่วยเหลือเขาเหล่านั้น”
“…”
“แต่ตอนนี้ มีคนๆหนึ่งคิดจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงกฏเลวร้ายพวกนั้น ผมที่มีแค่ความอ่อนแอเป็นเพื่อนมาตลอด ก็อยากจะคอยสนับสนุน อยากจะเป็นหนึ่งแรงผลักดันและช่วยเหลือเขานะครับ!”
“ไอ้จอม นายมันเป็นเพื่อนรักเพื่อนแท้เพื่อนตายของฉันจริงๆ
“ฝุ่น…”
หมับ! หมับ!
ก่อนที่ทั้งสองคนจะโผเข้ากอดกันตามประสาโหมดเพื่อนซึ้งๆ ผมและเทียร์ต่างก็ดึงรั้งคนของตัวเองเอาไว้อีกรอบ
ถึงจะรู้ว่าระหว่างสองคนนี้ไม่ได้มีอะไรให้น่าระแวง แต่…
ไม่รู้สิ มันหงุดหงิดนะถ้าเจ้าลิงหัวแดงต้องไปแตะต้องหรือสัมผัสคนอื่น
“เข้าใจแล้ว เอาไงก็เอากัน”
“เทียร์ก็จะร่วมด้วยเหรอครับ!”
“จะให้ฉันปล่อยนายไว้กับเจ้าคนชอบอาละวาดไม่เลือกที่อย่างหมอนั่นได้ยังไง”
“หมายถึงฉันเหรอ?!”
จะมีใครอีกล่ะ…
แบบนี้เท่ากับว่าความวุ่นวายในชีวิตของผมจะถูกเพิ่มมาอีกสองเท่าอย่างถาวรจนกว่ามหา’ลัยนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นใช่ไหม
ลาก่อน…ความสงบสุขในชีวิตที่เฝ้าฝันหา
จ้อกกกกกกก
ขวับ…
“แหะๆ ผะ…ผมหิวแล้วน่ะครับอาจารย์ มีอะไรกินไหม”
“มีๆๆๆ กับข้าวฝีมือชูจิอร่อยมากเลยนะ ฉันจะพาไปกิน”
หมับ!
“นายน่ะอยู่เฉยๆ เทียร์…จัดการ”
“ครับ”
ร่างสูงอีกคนรับคำสั่งแบบที่รู้กันผ่านสายตา พาจอมฟ้าเดินเข้าไปในห้องครัวที่มีอาหารตั้งอยู่บนโต๊ะ นี่ผม…
จะหวงหมอนี่เกินไปหรือเปล่า
“ชูจิ…”
“หืม?”
“ไอ้จอมน่ะ เป็นเพื่อนคนแรกของผมนะ”
คนตัวเล็กก้มหน้าเศร้า ปากที่คอยยิ้มร้ายตามบทบาทปิศาจของตัวเองตอนนี้มู่ทู่ลงเหมือนเด็กสามขวบ
“ผมแค่อยากสานสัมพันธ์กับเพื่อนเท่านั้นเอง ทำไมชูจิต้องขวางด้วยล่ะ หรือเพราะผมมันเป็นวายร้าย เป็นปิศาจชอบอาละวาดก็เลยไม่อยากให้ไอ้จอมเป็นเพื่อนด้วยใช่ไหม เทียร์ก็คงคิดแบบนั้น…”
เจ้าลิงหัวแดงเงยหน้ามองอย่างตัดพ้อ
เวรล่ะสิ…
เข้าใจไปคนละเรื่องเลย!
“ไม่ใช่นะ”
“แล้วทำไม…”
จะให้พูดออกไปได้ยังไงว่าหวง! ขืนบอกไปมีหวังโดนรุกใส่หนักกว่าเดิมแน่ๆ แค่ที่เป็นอยู่ก็แทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว
“เอาเป็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดแล้วกัน”
“ไม่เชื่อ”
กลายเป็นเจ้าลิงหัวดื้อไปแล้วสิ!
“โอเคๆ งั้นไปกินข้าวกับจอมฟ้าด้วยกันหมดนี่แหละ ไปๆ”
ยื่นมือไปจับเส้นผมสีแดงแล้วดันเบาๆให้ออกเดินไปทางห้องครัว ปิศาจที่ชกต่อยเป็นกิจวัตรอย่างหมอนี่พออยู่กับผมแล้วกลายเป็นเด็กขี้อ้อนขี้แยไปเลย!
จะมีใครเชื่อเรื่องแบบนี้บ้างเนี่ย
ออด…
ออดๆๆๆๆๆๆ
ใครมาอีกเล่า!
ผมปล่อยมือออกจากหัวหอมๆของไต้ฝุ่นเดินไปกระชากประตูห้องเปิดอย่างหงุดหงิด แค่เจ้าสามแปลกมารวมตัวกันที่นี่ผมก็แทบบ้าตายแล้วนะ!
“สวัสดีครับ”
“แฟนธ่อม…”
บะ…บ้าน่า
หมอนี่รู้จักที่นี่ได้ยังไง?!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย**:** มาอัพแล้วจ้า ช่วงนี้อาจจะอัพวันเว้นวันสลับกับเรื่องรักจัดหนักนะคะ อีกไม่กี่วันบิวก็จะเริ่มงานประจำแล้วด้วย เวลาในการอัพนิยายคงดึกขึ้นนะคะ ตอนนี้ปริศนาเรื่องเป้าหมายของแฟนธ่อมปรากฏออกมาแล้ว ทำไมเขาถึงได้พยายามทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเลวร้ายกันนะ? และที่สำคัญ…แฟนธ่อมมาบ้านของอาจารย์ได้ยังไง!!!