ตอนที่****12
ปิศาจหัวแดงที่บ้าคลั่ง
Special Talk :
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
“มีแค่นี้หรือไงวะ! แน่จริงก็เข้ามาอีกเซ่!”
เสียงตวาดที่เต็มไปด้วยความโกรธจนอยากจะอาละวาดดังก้องไปทั่วซอย ตรงหน้าผมกับจอมฟ้าตอนนี้คือปิศาจหัวแดงเวอร์ชั่นฆ่าไม่เลือกหน้า ตั้งแต่กลับจากการออกค่ายมาหมอนี่ก็มีเรื่องชกต่อยทุกวัน และวันนี้คือวันที่สาม
“เอาไงดีล่ะเทียร์ ขืนปล่อยไว้แบบนี้ต้องหมดแรงก่อนแน่ๆ ฝุ่นอาละวาดหาเรื่องพวกอันธพาลในแถบนี้มาสามวันติดๆแล้วนะ”
จอมฟ้าเขย่าแขนแขนผมระรัวเพื่อให้ช่วยหาหนทางหยุดไอ้ปิศาจตรงหน้า
แต่เมื่อปิศาจเลือกที่จะอาละวาดแล้ว ใครมันจะไปมีความสามารถมากพอที่จะหยุดได้กันล่ะ! ยิ่งในเวลานี้…เจ้าบั่นอารมณ์รุนแรงราวกับพายุสมชื่ออยู่ด้วย
เข้าไปห้ามมีแต่เอาชีวิตไปทิ้งน่ะสิ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คืนแรกของการไปออกค่าย พอผมกับจอมฟ้ากลับไปถึงห้องพักที่นั่นก็เหลือแค่ไต้ฝุ่นคนเดียวแล้ว อาจารย์เรียวกลับไปก่อนโดยไม่ได้บอกอะไรเลย โทรเข้าเบอร์ที่ให้ไว้ก็ไม่ติด พอสิ้นสุดการออกค่ายก็มีการประกาศบทลงโทษจากแฟนธ่อมว่าอาจารย์ถูกพักงานหนึ่งอาทิตย์ แล้วบ้านี่ก็เริ่มอาละวาดตั้งแต่ตอนนั้นแหละ
มันเที่ยวไปมีเรื่องกับอันธพาลทุกหนทุกแห่งรอบๆแถบนี้ ร่างกายสะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผลแต่ก็ยังยืนแสยะยิ้มเหมือนพวกปิศาจที่มีความสุขกับการได้ทำร้ายผู้คน เลือดสีแดงที่ไหลจากหัวเข้าไปในดวงตาไม่ได้ส่งผลอะไรกับร่างเล็กตรงนั้นเลย
ตัวแค่นั้น…ไปเอาพละกำลังมาจากไหนเยอะแยะ
“ลุกขึ้นมา เก่งนักไม่ใช่หรือไงฮะ!!!”
พลั่ก!
ปิศาจหัวแดงตรงเข้าไปกระชากผู้ชายคนหนึ่งที่หมดแรงสู้ไม่ไหวขึ้นมาก่อนจะประเคนหมัดใส่ลงไปไม่ยั้ง ดูยังไงก็ไม่ปกติ ทุกทีหมอนี่จะใช้กำลังแค่เฉพาะตอนช่วยพวกเด็กไร้ประโยชน์เท่านั้น ไม่เคยยื่นมือเข้าไปแส่เรื่องของพวกอันธพาลป่วนเมืองมาก่อน
“เทียร์ เอายังไงดีครับ หน้าตาฝุ่นเริ่มล้ามากแล้วนะ พวกอันธพาลต่างถิ่นที่ได้ยินว่ามีปิศาจหัวแดงมาเล่นงานอันธพาลแถวนี้ต่างก็ทยอยกันมาจากทั่วทุกสารทิศเลย ต่อให้เป็นฝุ่นก็เถอะ ถ้ามากันเยอะๆเรื่อยๆแบบนั้นมีหวังโดนยำตายแน่!”
อีกเรื่องที่น่าแปลกใจก็คือเจ้าแว่นข้างตัวผมนี่แหละ
เหมือนว่าจะซึ้งใจในความใจดีของอาจารย์เรียวมากก็เลยอยากช่วยไต้ฝุ่นที่หมอนี่ทึกทักเอาเองว่าคงเป็นศิษย์รักของอาจารย์ที่ตัวเองเคารพนับถือ งานเลยมาเข้าเอาที่ผมเพราะจะปล่อยให้แอบตามมาคนเดียวก็ห่วงจนทนไม่ได้เลยต้องมาด้วยแบบนี้
ชักเข้าใจความรู้สึกของอาจารย์ขี้เก๊กนั่นแล้วสิ ที่ว่าปล่อยไปไม่ได้มันเป็นยังไง…
“ฉันก็กำลังคิดอยู่นี่ไง นายเงียบหน่อยได้ไหม เดี๋ยวเกิดพวกมันเห็นว่านายกับฉันแอบดูอยู่ตรงนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป้าหมายหรอก”
“ผมกังวลนี่ครับ ถึงฝุ่นจะดูน่ากลัว แต่ตอนไปออกค่ายเขาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยผม หมอนั่นน่ะ…ใจดีกับเหมือนเทียร์แล้วก็อาจารย์เรียว เพราะงั้น…”
“รู้แล้วๆ อย่าร้องน่า”
ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้หลวมๆ ถ้าใครมาเห็นเข้าตอนนี้คงเป็นภาพหญิงสาวแสนสวยฉายาราชินีมายืนกอดพลอดรักกับเจ้าแว่นเด็กเนิร์ดท่าทางเซ่อซ่า มีหวังเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั้งมหาวิทยาลัยแน่ๆ
“ถ้าอาจารย์เรียวอยู่ด้วยคงจะหยุดพายุลูกนี้ได้ว่าไหมครับ”
“นั่นสิ มีแต่หมอนั่นที่จะหยุดปิศาจหัวแดงได้ ปัญหาคือพวกเราไม่รู้ว่าสองคนนี้มีปัญหาอะไรกันนี่แหละ ถึงจะตามหาที่อยู่อาจารย์จนเจอก็มั่นใจไม่ได้ว่าจะยอมมาห้าม”
“เรื่องนั้นไม่ลองไม่รู้หรอกครับ!”
“นายอย่าบอกนะว่า…”
“ไปตามหาอาจารย์กันเถอะ!”
ว่า! แล้ว! เชียว!
ชีวิตผมเริ่มเต็มไปด้วยความวุ่นวายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กอภิสิทธิ์ที่ควรจะมีชีวิตสุขสบายอยู่ในมหาวิทยาลัยอย่างผมทำไมต้องมาผจญชะตากรรมคอยเป็นแบ็คอัพตามช่วยเหลือไอ้ปิศาจหัวแดงบจอมอาละวาดแบบนั้นด้วย!
“หึๆๆ เข้ามาเลย! เข้ามาเยอะๆ! ฮ่าๆๆๆ”
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
ปิศาจยังคงดาหน้าเข้าหาศัตรูไม่หยุดทั้งที่ตัวเองแทบจะหมดแรงเดิน หมัดที่เหวี่ยงออกไปดูไร้ทิศทางจากตอนแรกๆมาก
แหงล่ะ บ้าคลั่งแบบนี้มาสามวันติดๆ คงถึงขีดสุดของร่างกายแล้ว แม้แต่คนที่คอยเฝ้าตามดูมันยังทำได้แค่เฝ้ามองห่างๆไม่กล้าเสนอหน้าออกมา บางทีอาจกลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย
พลั่ก!!!
“อ๊ะ!”
จอมฟ้าร้องเสียงหลงอย่างตกใจ คนที่โดนต่อยไปเต็มๆเบ้าหน้าคราวนี้คือไต้ฝุ่น ทว่าหมัดนั้นยังไม่สามารถทำให้ปิศาจล้มลงไปได้ ร่างกายแค่เอนไปเอนมาหากแต่ยังคงพยุงร่างกายตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
ผมล้วงหยิบมือถือออกมาแล้วกดอัดวิดีโอไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะมีประโยชน์หรือได้ใช้หรือเปล่า แต่ยังไงก็อัดไว้ก่อนแล้วกัน!
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
ปิศาจประเคนเข่าใส่ชายร่างยักษ์คนหนึ่งจนอีกฝ่ายตัวงอง้ำ ก่อนที่พวกของมันคนอื่นจะพุ่งเข้าเอาไม้ฟาดเต็มๆที่กลางหลังของไต้ฝุ่น ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ยอมล้มลงสักที ใบหน้าน่ากลัวกับดวงตาแมวเหยียดยิ้มขณะที่เลือดสดๆไหลพรากลงมาตามแก้ม
การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด แม้ว่าจะยังไม่มีใครล้มปิศาจได้แต่ร่างกายของหมอนี่ยังคงเป็นมนุษย์ อีกไม่นานคงจะทนไม่ไหว เมื่อถึงตอนนั้น…ผมไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าพวกอันธพาลต่างถิ่นที่กำลังยกโขยงกันมาจะทำยังไงกับหมอนั่น…
“โอเค เรียบร้อย ไปกันเถอะ”
“ไป? ไปไหนครับ”
“ก็ไปตามล่ามนุษย์เพียงคนเดียวบนโลกนี้ที่จะทำให้พายุไต้ฝุ่นสงบลงได้ไงล่ะ”
ผมยิ้มน้อยๆ พอได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างจนตาหยีด้วยความดีใจ แววตาเป็นประกายทะลุเลนส์แว่นออกมาจนผมอดไม่ได้ต้องดึงเข้ามากอดแนบอกอีกครั้ง
“เทียร์ ทำไมชอบกอดผมจังเลย”
“ไม่ต้องรู้หรอกน่า”
ขืนให้รู้ว่าเพราะน่ารักจนทำให้อดใจไม่ไหวมีหวังโดนรังเกียจคิดว่าเป็นพวกวิปริตแน่ๆ ต้องปิดไว้เป็นความลับจนกว่าจะทำให้หัวใจของเจ้านี่มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้น…
“ทะ…เทียร์! แฮ่ก…นะ…นี่ที่ที่สิบเอ็ดแล้วนะครับ พวกเราตามหาที่อยู่ของอาจารย์กันมาแปดชั่วโมงเต็มแล้วนะ แน่ใจเหรอว่าคราวนี้จะเป็นที่นี่”
จอมฟ้าที่เหนื่อยหอบจนตัวโยนถามเสียงขาดๆหายๆ หน้าขาวๆตอนนี้แดงแปร๊ดจากการวิ่งวุ่นจนเลือดลมสูบฉีดดีกว่าปกติ
“ไม่มั่นใจหรอก อาจจะฟลาวด์เหมือนสิบที่ก่อนหน้านี้ก็ได้”
ก้มมองกระดาษในมือที่ผมให้คนของที่บ้านช่วยสืบอย่างเร่งด่วนให้ มันคือบ้านที่อาจารย์เรียวอาศัยอยู่นั่นเอง แต่พอตรวจสอบดูจริงๆปรากฏว่าหมอนั่นแวบไปทางนู้นทีทางนี้ที บางวันนอนอีกที่ บางคืนก็นอนอีกที ทำตัวเหมือนแมวจรจัดไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งทำให้ข้อมูลที่ได้มาสับสนจนจับอะไรไม่ได้เลย
เป็นคนที่ลึกลับพอๆกับแฟนธ่อม
ไม่สิ…อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ
‘แต่ละที่ที่ผู้ชายคนนี้เคยไป มีบางคนรู้จักเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเองแนะนำตัวกับใครเลย อย่างที่แรก ทุกคนที่รู้จักหรือเคยพบเขาต่างเรียกเขาว่าเซ็น อีกที่คือที่ที่สาม พนักงานร้านสะดวกซื้อข้างล่างอพาร์ทเมนต์นั้นบอกว่าเขาชื่อเท็ตสึ ส่วนที่ที่หกบอกว่าชื่อทาคุมิ ที่ที่เจ็ดบอกว่าชื่อไค และที่สุดท้าย ที่ที่สิบเอ็ดบอกว่าชื่อโนบุครับ’
คำบอกเล่าของคนจากที่บ้านสร้างความแปลกใจให้เป็นอย่างมาก แต่ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับจอมฟ้าเพราะไม่ต้องการให้เป็นกังวลไปด้วย ทั้งที่อยู่กลางแจ้งและได้พบเจอผู้คนมากมายไม่เหมือนกับแฟนธ่อมที่หลบอยู่ในเงามืดและไม่มีใครเคยได้เห็น
แต่ระดับความลึกลับกลับมีมากกว่าจนน่ากลัว…
เป็นใครกันแน่นะ อาจารย์เรียว…
“วันนี้ก็ยังไม่ยอมออกจากห้องเลยล่ะ ทั้งที่หายไปตั้งหลายเดือนแล้วจู่ๆก็กลับมา ยังแปลกคนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยเนอะ คุณโนบุคนนี้”
“!!!”
“ผมว่าเราลองไปดู…”
“จอมฟ้า นายรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
สั่งเจ้าแว่นก่อนจะวิ่งตามคุณป้าสองคนที่เดินสวนกันเมื่อครู่เพราะสะดุดกับชื่อที่พวกเธอพูดถึงกันเมื่อกี้ไป
“ขอโทษนะคะคุณพี่คนสวย คุณโนบุที่คุณพี่พูดถึงกันใช่คนนี้หรือเปล่าคะ”
“คะ..คุณพี่เหรอ”
คุณป้าต่างมองหน้ากันแล้วอมยิ้มอย่างถูกใจที่ถูกเรียกพี่ ผมยื่นรูปของอาจารย์เรียวซึ่งไปแคปเจอร์มาจากหน้าเว็บรายชื่ออาจารย์ในเว็บของมหาวิทยาลัยให้ดู
“ใช่ไหมคะ พอดีเขาเป็นพี่ชายของหนู แต่ทะเลาะกับที่บ้านนิดหน่อยเลยชอบหนีออกจากบ้านเป็นประจำ หนูเลยต้องมาตามกลับน่ะค่ะ”
“อ๋อออ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะ คุณเจ้าของอพาร์ทเมนต์บอกว่าคุณโนบุจ่ายค่าห้องไว้ทั้งปี แต่ตัวเองกลับไม่ค่อยมานอน น้านนานจะมาสักที ที่แท้ก็เพราะมีบ้านอยู่แล้ว จะมาแค่ตอนหนีออกจากบ้านเฉยๆ”
จ่ายค่าเช่าทั้งปี? หมายถึงจ่ายล่วงหน้าน่ะเหรอ
เพื่ออะไรกัน?
“แล้วเขาอยู่ห้องไหนเหรอคะ”
“อพาร์ทเมนต์ที่พวกหนูยืนกันเมื่อกี้แหละจ้ะ ชั้นห้าชั้นบนสุดเลย ห้องสุดท้าย”
“ขอบคุณคุณพี่ทั้งสองมากเลยนะคะ นอกจากสวยแล้วยังใจดีอีก แบบนี้ต้องเป็นสาวสองพันปี เต่งตึงตลอดกาลแน่ๆเลยค่ะ โฮะ…โฮะ…โฮะ…”
แกล้งชมปิดท้ายแล้วรีบปลีกตัวออกมา ปล่อยให้คุณป้าทั้งสองเคลิ้มในคำชมของผมต่อไป จอมฟ้าที่ยืนรออยู่รีบเดินเข้ามาหา
“ไปคุยอะไรมาเหรอครับ”
“รู้ที่อยู่แล้ว ตามมา”
คว้าข้อมือเล็กให้เดินตามไปทันที ยิ่งค้นหาก็ยิ่งเจอแต่เรื่องน่าแปลกใจและความลับไม่มีที่สิ้นสุด ผมกำลังเจอกับอะไรอยู่กันแน่ คนๆนี้…ไว้ใจได้จริงหรือเปล่า
ก๊อกก๊อกก๊อก
เคาะประตูห้องริมสุดที่ปิดสนิท พอแนบหูกับประตูก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ ป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย พวกอันธพาลต่างถิ่นไม่ยกโขยงไปหาเจ้าปิศาจหัวแดงกันหมดแล้วหรือไง เสียเวลาตามหาเจ้าอาจารย์บ้านี่แท้ๆ
แอ๊ด…
“อาจารย์จริงๆด้วย!”
“…”
หมับ!
“อย่าคิดว่าจะหลบพ้นเลยค่ะอาจารย์”
รีบสอดตัวแทรกเข้าไปได้ทันก่อนที่อาจารย์จะปิดประตู เจอหน้าปุ๊บรีบปิดประตูใส่ปั๊บมันเสียมารยาทแค่ไหนรู้บ้างหรือเปล่า!
“มาที่นี่ได้ยังไง”
“คนของเทียร์ช่วยสืบให้นะครับ”
จอมฟ้าตอบตามความจริงแบบไม่ปรึกษากันสักคำ ไอ้หมอนี่ก็ซื่อเกินไป! รู้สึกว่าตั้งแต่เจอความใจดีของอาจารย์เข้าไปคราวก่อนจะเริ่มคุยแบบคนปกติได้แล้วนะ
“ทำไมต้องสืบที่อยู่ฉัน”
ร่างสูงหันกลับมาจ้องผมเขม็ง สามวันที่โดนพักงานไม่ได้ทำอะไรนอกจากนอนเลยหรือไง สภาพแตกต่างจากเวลาอยู่มหาวิทยาลัยสุดๆ
แว่นก็ไม่ได้ใส่…
ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง…
เสื้อผ้าก็เซอร์สุดๆ…
อย่างกับคนละคน
“อย่างกับคนละคน”
หือ?!!!
เมื่อกี้ผมเผลอพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปงั้นเหรอ?
“อาจารย์เวลาอยู่ที่บ้านกับที่มหา’ลัยนี่เหมือนคนละคนเลยนะครับ นึกว่าจะเนี้ยบกว่านี้เสียอีก”
จอมฟ้าว่าพลางมองไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยขยะ ถ้วยชามกินแล้วไม่ยอมล้างกองพะเนิน แถมบนพื้นยังมีกระป๋องเบียร์และขี้บุหรี่ตกอยู่แทบทุกตารางเมตร
นอนเข้าไปได้ยังไง
ดงขยะชัดๆ
“ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปซะ แล้วอย่ามาที่นี่อีก”
ตอบพวกผมแค่นั้นก็หมุนตัวเดินกลับไปทางโซฟา ซึ่งเป็นจุดเดียวจากทั้งห้องที่พอจะมีที่ว่างให้นอนได้
“อาจารย์เรียวได้โปรดไปช่วยฝุ่นด้วยเถอะครับ!”
“…”
คำพูดของจอมฟ้าหยุดการเคลื่อนไหวของอาจารย์เรียวได้ กะแล้วเชียว ถ้าเป็นเรื่องของปิศาจหัวแดง คนๆนี้จะต้องสนใจแม้ว่าจะพยายามไม่สนใจแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้
“ฝุ่นกำลังแย่แล้วนะครับ สามวันที่ผ่านมาเขาเอาแต่มีเรื่องไม่หยุดเลย ตามอาละวาดไล่จัดการพวกอันธพาลแถบนั้นจนเกลี้ยง ร่างกายของฝุ่นตอนนี้จะถึงขีดจำกัดแล้วนะครับ”
“…”
“ที่สำคัญ ข่าวลือที่ว่ามีปิศาจหัวแดงออกอาละวาดเล่นงานพวกอันธพาลจนราบเป็นหน้ากองดังกระฉ่อนไปทั่ว พวกอันธพาลจากที่อื่นๆเลยกำลังพากันเดินทางไปเพื่อจัดการฝุ่นด้วยนะครับ!”
“…”
“อาจารย์เรียว ขอร้องล่ะ! ถ้าอาจารย์ไม่ไปหยุดหมอนั่นไว้ ฝุ่นต้องฝืนตัวเองจนร่างกายไม่ไหวแน่ๆเลยครับ!”
“…”
“ผมน่ะ ถึงหมอนั่นจะหน้าตาน่ากลัว แต่ลึกๆแล้วผมสัมผัสได้ว่าฝุ่นเป็นคนใจดี ผม…ผม…อยากเป็นเพื่อนกับเขา”
“…”
“ไปหยุดไต้ฝุ่นลูกนี้ด้วยกันเถอะนะครับ!”
[พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!]
ผมหยิบวิดีโอการต่อสู้ของปิศาจหัวแดงที่ถ่ายไว้ขึ้นมาเปิด อาจารย์ที่ตอนแรกเอาแต่ยืนหันหลังให้ค่อยๆหันกลับมาเพราะเสียงของคนในคลิปนี้…
[ให้พวกชั่ว! ออกมาให้หมดเดี๋ยวนี้ ฉันจะจัดการพวกแกไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียวเลย อ๊ากกกกก!!!]
“หมอนั่น…”
“สภาพดูไม่ได้สุดๆเลยใช่ไหมล่ะครับ คิดว่าคงสู้ต่อไปได้อีกไม่นานหรอก พวกที่คิดจะมาจัดการหมอนี่เองก็คงใกล้ถึงแล้ว”
“…”
“เอาไงดีล่ะครับ จะไปหยุดไต้ฝุ่นลูกนี้ด้วยกันไหม?”
“นั่นแหละครับลูกพี่ ปิศาจหัวแดงที่ร่ำลือกันว่าออกอาลาดในแถบนี้มาสามวันแล้ว”
อันธพาลกลุ่มใหญ่จากถิ่นอื่นนับร้อยคนที่ได้รับข่าวเลยพากันบุกมาถึงต่างถิ่นยืนมองดูปิศาจหัวแดงที่กำลังยกเท้ากระทืบใครบางคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม คนที่ถูกเรียกว่า ‘ลูกพี่’ แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว มือซ้ายกำลังลูบไล้นิ้วข้างขวาที่สวมแหวนซึ่งมีเหล็กแหลมถูกลับจนคมครบทั้งห้านิ้วอยู่
“น่าสนุกดีนี่ ตัวแค่นั้นแต่กลับเล่นงานคนตั้งมากมายได้”
“เราพาคนมาตั้งเยอะ ถ้าพวกเราสามารถล้มหมอนั่นได้ก็เท่ากับเราจะได้ครองที่นี่เพิ่มด้วยนะครับ”
“นั่นสินะ จัดการคนที่ล้มอันธพาลแถวนี้ได้ทั้งหมดก็เท่ากับว่าผู้เปราชัยคือพวกเราต่างหาก”
“ใช่ครับ”
“ดีล่ะ ฉันต้องเอาเลือดของปิศาจหัวแดงนั่นมาล้างเท้าให้ได้!”
บับเบิ้ลบิวชวนคุย**:**
มาอัพแล้วจ้า เอาล่ะสิ น้องฝุ่นที่บ้าคลั่งอาละวาดไปทั่วกำลังจะเจอศึกใหญ่แล้ว! ร่างกายตอนนี้ไม่สามารถฝืนต่อไปได้อีกแล้วนะ ถ้าพวกอันธพาลกลุ่มที่มาใหม่เข้ารุมเล่นงานพร้อมกันทีเดียวต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่! อาจารย์เรียว…อาจารย์จะมาช่วยน้องใช่ไหม ฮือออออ T^T