ตอนที่****11
ลิงหัวแดงแทนคุณ?
“ลงไปก่อน”
ผมสั่งพร้อมกับปล่อยมือออกจาต้นขาของไต้ฝุ่น มันรีบกระโดดลงไปยืนบนพื้นอย่างว่าง่าย รู้สึกหลังโล่งขึ้นเยอะเลยแฮะ
“ชู เอ่อ…อาจารย์จะทำอะไรเหรอครับ”
“หลับตา”
“ครับ?”
“หลับตาแล้วนับหนึ่งถึงสิบในใจ”
“ทำไม…”
ตวัดสายตาหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิด คนถูกมองด้วยสายตานี้เป็นครั้งแรกถึงตาลาเหลือรีบหลับตาตามคำสั่ง
“ฉันจะเชื่อใจนายว่านายหลับตาอยู่จริงๆ อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะไต้ฝุ่น”
พยักหน้ารับคำผมหงึกๆ ยืนรออยู่สักพักจนมั่นใจว่าเจ้านี่จะมาลืมตาขึ้นมาจริงๆ ออกตัวเดินเข้าไปหาแฟนธ่อมจนกระทั่งประชันหน้ากัน กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนดอกไม้โชยออกมาจากตัวเขา
“ถ้านายอยู่ที่นี่ตลอดเวลา คงรู้สินะว่าไม่ควรทำให้ฉันโกรธเหมือนกัน”
“อะไรกันครับ โหมดปิศาจที่น่ากลัวขนาดนี้ ให้เด็กคนนั้นเห็นไม่ได้งั้นเหรอ”
“คนที่เอาแต่หลบอยู่หลังหน้ากากไม่มีสิทธิ์พูดประโยคนั้นหรอกนะ”
“เรียวโนะสุเกะ ชูจิ เรียนจบมหาวิทยาลัยจากประเทศไทย ในข้อมูลมีแค่ชื่อนามสกุลและมหาวิทยาลัยที่เรียนจบมาเท่านั้น พอลองสืบค้นหาข้อมูลดิบอย่างจริงจังเจอเพียงแค่ว่านามสกุลเรียวโนะสุเกะเป็นนามสกุลที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ก่อนเดินทางมาประเทศไทย ขนาดจ้างแฮกเกอร์มืออาชีพช่วยแฮ็กทุกระบบเพื่อหาข้อมูลของคุณก็ยังหาไม่ได้ ผมถึงได้ฉุกคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ขึ้นมาสองอย่างคือ…”
“…”
“หนึ่ง แท้จริงคุณเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ยานคงถูกหลุมอากาศดูดเข้าไปจนเกิดความเสียหายขัดข้องและตกลงมาบนโลกมนุษย์ ทำให้ไม่มีข้อมูลของคุณอยู่ในหน่วยงานใดในโลกนี้เลย”
“หา?”
มนุษย์ต่างดาวเนี่ยนะ..
ถามจริง?
“และสอง”
“…”
“มีคนต้องการซ่อนตัวตนที่แท้จริงของคุณไว้ หรือพูดให้เข้าใจไปเลยก็คือตอนนี้คุณกลายเป็นบุคคลหายสาบสูญ แทนที่จะเอาไปซ่อนไว้ในที่ลับจริงๆ สู้ปล่อยให้อยู่ในที่แจ้งแล้วทำให้กลายเป็นบุคคลหายสาบสูญโดยการหลบออกนอกประเทศไปซะ ผมเข้าใจถูกไหมครับ”
“รู้อะไรไหม หากประวัติของนายเปรียบได้กับกล่องแพนโดร่าที่ไม่สมควรจะเปิด ตัวตนของฉันก็เปรียบเหมือนมันเช่นกัน”
“…”
“ถ้าไม่อยากพบเจอภัยพิบัติ อย่าริอาจเปิดกล่องแพนโดร่า”
ผมพูดเสียงเย็นทิ้งท้ายพร้อมจ้องมองแฟนธ่อมผ่านหน้ากากอสุรกายสีแดงฉานด้วยแววตานิ่งสนิท มือข้างหนึ่งดึงเอาธงแดงออกมาจากมือของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
“ฉันจะลืมเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้ซะ นายเองก็ควรจะลืมเหมือนกัน ตัวฉันในตอนนี้…เป็นแค่อาจารย์ห้องพยาบาลธรรมดาๆเท่านั้น”
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับจากคนชุดขาว ผมเดินถอยหลังทิ้งห่างออกมาเพื่อกลับไปหาไต้ฝุ่น ประจวบกับหมอนั่นลืมตาขึ้นมาพอดี
“ผะ…ผมนับถึงสิบแล้ว โอ๊ะ! ธงแดงนี่!”
“อื้ม พอเข้าไปขอร้องดูก็ยอมยกให้ง่ายๆเลย ไปกันเถอะ”
“ยกให้ง่ายๆ? จริงเหรอเนี่ย”
เจ้าลิงหัวแดงหันขวับไปทางแฟนธ่อม คงจะไม่เชื่อเรื่องโกหกแบบนี้ง่ายๆแน่
“จริงครับ ผมยกธงแดงนั้นให้ เพียงแต่ว่า…อาจารย์เรียวจะต้องถูกลงโทษพักงานหนึ่งอาทิตย์หลังจากการออกค่ายจบลง เพราะว่าคุณทำผิดที่แอบลอบเข้ามาช่วยทีมของตัวเองถึงในนี้”
“นี่แก…!”
“ตกลง”
“อาจารย์!”
“หนึ่งอาทิตย์ช่วงที่ฉันพัก ‘ร้อน’ อย่าให้คนที่มหา’ลัยหน้าไหนไสหน้าไปยุ่มย่ามกับฉันเด็ดขาด ไปได้แล้วไต้ฝุ่น”
คว้ามือเจ้าลิงหัวแดงพาตรงไปยังทางออกจากป่าทันที สายตาก้มมองธงแดงในมือ ส่วนปลายบิดเบี้ยวไปเยอะจากแรงบีบของแฟนธ่อม
หมอนั่นบีบมันไว้แน่นมากเพื่อป้องกันไม่ให้ผมดึงออกไปจากมือได้ แต่ว่า…
นายสู้ฉันไม่ได้หรอก อสุรกาย…
หลังจากพาไต้ฝุ่นไปส่งถึงทางออก ผมก็ต้องปีนกำแพงและลอดรั้วหนามออกมาทางเดิม แน่นอนว่าโดนข่วนซ้ำแผลเดิมด้วยเช่นกัน ตอนนี้เลยหลบกลับมานอนพักที่ห้องเพื่อรอเวลาให้เจ้าสามแปลกนั่นเลิกกิจกรรมสำหรับคืนแรกและกลับมา ส่งขอความเข้าไปในไลน์กลุ่มของพวกอาจารย์เพื่อขอลาป่วยเนื่องจากปวดท้องกะทันหัน
“อ่า ไม่ถึงแฮะ”
มือที่พยายามจะเอื้อมไปแตะหลังเพื่อทายาค้างเติ่งอยู่ตรงช่วงไหล่ ถึงคืนนี้จะสามารถปกป้องเจ้าสามแปลกเอาไว้ได้ แต่ตัวเองกลับต้องมาถูกพักงานหนึ่งอาทิตย์มันคุ้มกันซะที่ไหน
ทั้งหมดทั้งมวลของความยุ่งยากมันเป็นเพราะเจ้าลิงหัวแดงนั่นคนเดียว!
แอ๊ด…
ขวับ!
เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกทั้งที่ในเวลานี้ไม่น่าจะมีใครนอกจากผมเรียกความสนใจจนต้องเอี้ยวคอไปมอง เงาตะคุ่มๆเดินเซเข้ามาเหมือนคนหมดแรง เห็นแค่เงามันผมก็จำได้แล้วว่าเป็นใคร เจ้าลิงหัวแดงปิดประตูห้องพร้อมล็อกเสร็จสรรพก่อนจะเดินตรงมาที่เตียงซึ่งมีผมนอนคว่ำหน้าอยู่
ตอนแรกว่าจะไม่ตกใจแล้วนะ แต่พอมันปิดประตูแถมล็อกแล้วยังเดินดำทะมึนตรงดิ่งมาที่เตียงแบบนี้มันทำให้ตกใจไม่น้อย!
ตุ้บ!
“อั้ก!”
ความปวดที่สะโพกแล่นปราดไปทั่วร่าง พอเห็นว่าผมจะลุกหนีไอ้เด็กบ้ามันก็รีบกระโดดขึ้นมานั่งทับตรงสะโพกทำเอาหน้าทิ่มลงไปบนหมอน เสียงกระดูกเคลื่อนดังสนั่นหวั่นไหว
อย่าลืมสิเว้ยว่าฉันอายุเท่าไหร่แล้ว!
“เจ็บไหมชูจิ”
“ตอนแรกแค่เจ็บแต่ตอนนี้ฉันจะตาย! ทับลงมาได้ยังไงเนี่ย ถ้าสะโพกฉันหัก…!”
หมับ!
ดวงตาเบิกกว้างกับสัมผัสอุ่นๆจนเกือบร้อนที่แผ่นหลัง ด้วยปิดไฟในห้องพักจนหมดตอนที่ไต้ฝุ่นเดินเข้ามาผมเลยเห็นเป็นแค่เงา ทำให้ไม่รู้ว่าความจริงแล้วเจ้าเด็กคนนี้…
แก้ผ้า…
เนื้อแนบเนื้อทำเอาในหัวขาวโพลนไปชั่วขณะ หัวใจที่เต้นแรงของไต้ฝุ่นสะเทือนมาถึงแผ่นหลัง ร่างกายเล็กๆทิ้งตัวนอนทับผมไว้ วงแขนตวัดกอดรอบคอแน่นจนขยับไม่ได้ ตัวผมเองตอนนี้ท่อนล่างพันแค่ผ้าเช็ดตัวเอาไว้ด้วยสิ เพิ่งอาบน้ำเสร็จเลยกะจะทายาก่อนแล้วค่อยแต่งตัว
เวรกรรมล่ะ
ทำยังไงดีล่ะเนี่ย!
“ผมทายาให้นะ”
ร่างเล็กผละตัวลุกนั่งตามเดิม เอื้อมมือมาดึงหลอดยาในมือผมไปทาให้แทน ปลายนิ้วเรียวร้อนแต้มยาลงบนแผลก่อนจะไล้วนทาให้อย่างเบามือ
สัมผัสบางเบาเหมือนสำลีทำเอาเคลิ้มไปแวบหนึ่ง
ไม่ได้ๆๆๆๆ ถ้าเผลอเคลิ้มเมื่อไหร่ต้องลืมตัวจับเจ้าเด็กนี้ทำเรื่องอย่างว่าแน่ๆ แค่ก้นนิ่มๆที่กำลังถูไถกับสะโพกผมไปมาก็เต็มกลืนแล้ว!
“ชูจิไม่จำเป็นต้องทำถึงแบบนี้ก็ได้นะครับ ไหนเคยบอกว่าไม่ชอบเรื่องยุ่งยากไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ที่ทำอยู่มันไม่ยุ่งยากหรือไง”
“พูดมากน่า รีบทายาให้เสร็จแล้วออกไปได้แล้ว”
“ไม่ออก”
“…”
ว่าแล้วเชียว
ลองถ้าเจ้าลิงหัวแดงดื้อขึ้นมา เอาช้างทั้งโขลงมาฉุดยังรั้งไม่อยู่ ผมดันเป็นคนประเภทแพ้ทางหมอนี่ทุกทางเลยด้วยสิ แบบนี้ทำอะไรไม่ได้แน่นอน
“โอเค ไม่ออกก็ไม่ออก แต่นายต้องใส่เสื้อผ้า”
“ทำไมล่ะ ชูจิไม่ชอบเหรอ”
อย่าก้มหน้าเข้ามาถามใกล้ๆหูแบบนี้สิเฮ้ย! หมอนี่เข้าใจความน่ากลัวของผู้ใหญ่เวลามีความต้องการบ้างหรือเปล่า ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนหรือว่าพวกตายด้านนะ
หัดเข้าใจความอดทนของคนอื่นเขาซะมั่งเซ่!
“ชอบ”
“งั้นเรามา…!”
“แต่พอคิดว่าเจ้าของร่างกายที่ฉันชอบนี้คือนายมันก็หมดอารมณ์แล้วล่ะ”
“ไหงงั้นอ่ะ!”
“สำนึกซะบ้างสิว่าครั้งแรกที่เจอกันนายกำลังทำอะไร”
พลิกตัวหงายกลับมาแล้วรีบลุกขึ้นนั่ง ดึงเอาผ้าห่มเข้าห่มตัวร่างเล็กเอาไว้พลางกอดไว้แน่น ขืนปล่อยให้หลุดออกมาได้มีหวังโดนยั่วจนตบะแตกชัวร์
คงต้องอยู่แบบนี้ไปก่อนจนกว่ามันจะหลับ
ให้ตายสิ ขอนอนพักแบบสบายๆบ้างไม่ได้เลยเรอะ!
“ปล่อยผมนะชูจิ ผมตั้งใจมามีเซ็กส์กับชูจิเลยนะถึงได้โดดกิจกรรมแล้วแก้ผ้าเข้ามาเนี่ย”
“หน้าไม่อาย”
โป๊ก!
“อ๊ากกก เจ็บนะ!”
เด็กสมัยนี้มันเอาอะไรมาฉาบกันนะ กล้าพูดเรื่องใต้สะดือกับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนกันได้ยังไง อีกอย่าง…เผลอไม่ได้ต้องอ่อยกันตลอดแบบนี้ใครมันจะไปไว้ใจฟะ!
“ฉันไม่ปล่อย ขืนปล่อยนายก็ยั่วฉันอีกน่ะสิ”
“ยั่วไปก็ไม่ได้ผลไม่ใช่หรือไง แล้วชูจิจะกังวลทำไมล่ะ”
“ใครบอกนายว่าไม่ได้ผล”
“เอ๊ะ…? กะ…ก็…”
“ช่วยเข้าใจสถานะของคนอื่นบ้างจะได้ไหม”
“มะ…หมายความว่าไงเหรอครับ”
ถ้าให้เดาหน้าตาของไต้ฝุ่นตอนนี้ล่ะก็…ดวงตาแมวคู่นี้คงกำลังล่อกแล่กไปมาด้วยไม่รู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ริมฝีปากเล็กๆต้องกำลังเม้มเข้าหากันแล้วค่อยๆใช้ฟันกัดริมฝีปากเอาไว้…
ลูบ…
“อ๊ะ…”
เสียงเล็กร้องออกมาเบาๆเมื่อผมใช้นิ้วลูบไปบนริมฝีปากเพื่อตรวจสอบดูว่าสิ่งที่คิดถูกต้องหรือไม่ และมันก็ถูก…
“ไต้ฝุ่น…”
“ครับ”
“ขอร้องล่ะ”
“…”
“อย่ายั่วกันมากกว่านี้เลยนะ”
ก้มหน้าลงไปกดริมฝีปากลงตรงปลายคางมน เกิดความเงียบขึ้นเนิ่นนานจนผมต้องเป็นฝ่ายขยับตัวเอนอนตะแคงลงไปบนเตียง ดึงรั้งตัวไต้ฝุ่นมาด้วยและโอบกอดเอาไว้ในวงแขน ยื่นหน้าเข้าไปซุกไซร้กับซอกดคอหอมๆที่มีกลิ่นเหงื่อปะปนมาเล็กน้อย
“ชะ…ชูจิ”
“อะไร”
“ชูจิ คิดยังไงกับผมเหรอ”
“หืม?”
“ก็…ทั้งที่คอยปฏิเสธเรื่องที่ผมขอมีอะไรด้วย แต่ว่าเวลาที่ผมต้องการให้ช่วย ชูจิมักจะปรากฏตัวเสมอ ทั้งใจดี ทั้งหล่อ…”
ขะ..ข้อหลังนี่มัน…
ทะแม่งๆแฮะ
“แล้วยังที่กำลังทำตอนนี้อีก ผมอยากรู้ว่าชูจิคิดยังไงกับผมกันแน่ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลยจริงๆเหรอ”
ไต้ฝุ่นอาศัยจังหวะตอนผมคลายวงแขนพลิกตัวกลับมาหันหน้าชนกัน แขนเล็กๆเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอจนผมต้องก้มหน้าลงเล็กน้อยไปตามแรงดึง ท่อนบนของเราแนบชิดเสียดสีกนจนเกิดเป็นความร้อนแผ่ซ่าน
แม้จะไม่เห็นหน้า แต่สัมผัสของลมหายใจทำให้ผมรู้ได้ว่าเจ้าลิงหัวแดงอยู่ห่างไม่ถึงเซ็นด้วยซ้ำ
“ชูจิ…”
“…”
“ชอบไหม”
ไม่พูดเปล่า ร่างเล็กขยับร่างกายเบียดเสียดเข้ามา จงใจยั่วยวนกันแบบไม่ปิดบัง! ส่วนล่างที่ถึงผมจะยังนุ่งผ้าเช็ดตัวไว้และอีกฝ่ายจะมีผ้าห่มคลุมอยู่ก็ตาม แต่อะไรๆที่มันถูกปลุกจนตื่นตัวขึ้นมาแล้วผงาดง้ำดันเนื้อผ้าออกมาอย่างง่ายดาย
“ต้องการแบบนี้จริงๆเหรอ”
“ครับ?”
กายหอมที่กำลังเล้าโลมอย่างเต็มที่หยุดชะงัก ผมดันตัวขึ้นไปคร่อมทับไต้ฝุ่นเอาไว้ มือข้างหนึ่งบีบเข้ากับลำคอสวยเต็มแรง
“อึก! ชะ…ชู…จิ…”
“นายน่ะ ต้องการฉันแค่นั้นจริงๆเหรอ”
“อึก! อะ…อ๋มเอ็บ…” (ผมเจ็บ)
“พอได้กันแล้วก็แยกทาง ต้องการแค่นั้นใช่ไหม”
“อึก อื้อ!!!”
เจ้าลิงหัวแดงเริ่มดิ้นพล่านควานหาอากาศเข้าสู่ร่างกาย มือที่บีบคอมันไว้สั่นระริกพอๆกับดวงตาที่กำลังมองเงาเล็กดีดดิ้นไปมา
“ถ้านายต้องการแค่นั้น ฉันก็จะไม่สนใจนายอีกต่อไป”
“แค่ก! แค่ก! แค่ก!”
เมื่อลำคอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ไต้ฝุ่นก็สำลักออกมาอย่างรุนแรง เสียงสูดลมหายใจเข้าปอดดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ผมเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาชุดมาใส่ก่อนจะขนเอาของทั้งหมดที่เตรียมมาด้วยเดินออกจากรีสอร์ทเพื่อกลับกรุงเทพฯ ปล่อยทิ้งไต้ฝุ่นที่เรี่ยวแรงยังไม่กลับมาเอาไว้เพียงลำพัง…
…ในความมืด
บับเบิ้ลบิวชวนคุย**:**
มาอัพแล้วจ้า ยิ่งแต่งยิ่งสัมผัสได้ถึงความลึกลับของพระเอก! เป็นตัวเอกคอยเล่าเรื่องแท้ๆ แต่กลายเป็นว่าดันเป็นตัวละครที่ไม่มีที่มาที่ไปมากที่สุด ไม่เข้าใจความคิด ไม่เข้าใจความต้องการ ที่แน่ๆคือ…มีความ SM อย่างแรงกล้า บีบคอน้องฝุ่นแบบนั้นได้ยังง้ายยยย เอ็งต้องการาอะไรคิดอะไรอยู่ก็บอกไปสิเฟ้ยยยย