ตอนที่****1
คำก็ผัวสองคำก็ผัว
“เรียบร้อย ยังไงก็อย่าลืมทานยาทานยาข้าวให้ตรงเวลานะ ถ้าทำได้อาการปวดท้องก็จะหายไปเอง”
“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์”
นักศึกษาหญิงปีหนึ่งที่เกิดเป็นลมไปเนื่องจากปวดท้องอย่างแรงจนถูกส่งมาที่ห้องพยาบาลยกมือไหว้ขอบคุณ เป็นเพราะโหมลดน้ำหนักเนื่องจากกลัวอ้วน ถ้าหากอ้วนจนขี้เหล่ขึ้นมาจะถูกโหวตให้เป็นบุคคลอัปลักษณ์ พักหลังมานี้เลยมีนักศึกษาหญิงที่เป็นลมเพราโรคกระเพาะมาที่ห้องพยาบาลบ่อยๆ
“เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย รีบกินข้าวดีกว่าก่อนที่เจ้าเด็กนั่น…”
“อาจารย์…!!!!!”
ร่างกายสะดุ้งโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงเรียกที่ไม่ไดต้องการได้ยินสักนิดดังมาแต่ไกล ผมรีบตรงไปที่ประตูห้องพยาบาลแล้วปิดมันพร้อมกับลงกลอนอย่างแน่นหนา!
เส้นยาแดงผ่าแปดสุดๆ…
ปังๆๆๆๆๆ
“อาจารย์! เปิดประตูหน่อยสิครับ นี่ผมเองนะ ว่าที่เมียของอาจารย์ไง”
จะเป็นลม…
ผมดึงม่านปิดตรงกระจกช่องเล็กๆด้านบนประตูเพื่อไม่ให้เด็กบ้านั่นมองเข้ามาข้างในได้ เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์นับตั้งแต่วันที่ผมเจอเขาตอนฝนตก วันรุ่งขึ้นหลังจากนั้น…จู่ๆไอ้เด็กผมแดงก็ปรากฏตัวที่ห้องพยาบาลพร้อมกับวลีเด็ดที่ว่า…
‘ผมอยากได้อาจารย์เป็นผัว ยอมเป็นผัวผมเถอะ!’
นับแต่นั้นมา วงจรชีวิตของผมก็ปั่นป่วนผิดแปลกไปจากเดิมตั้งเยอะ จากที่เคยอยู่อย่างสงบๆในห้องพยาบาล กลายเป็นว่าทุกๆวันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงว่าเด็กคนนั้นจะโผล่มาตะครุบตัวผมตอนไหน ไม่มีวันที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ในมหา’ลัยได้อย่างใจอีกเลย…
“แค่ล็อกประตูห้องคิดว่าจะหนีผมได้เหรอครับ”
“เฮ้ย!”
สะดุ้งโหยงอีกรอบ หันไปมองทางขวามือก็เจอกับคนที่อยากจะหนีไปให้ไกลที่สุดนั่งจ๋องอยู่ตรงขอบหน้าต่าง
ยะ…อย่าบอกนะว่า…
“ปีนระเบียงขึ้นมาเหรอ?”
“แน่นอน แค่ชั้นสองเองนะครับ จิ๊บๆ”
“จะบ้าเหรอ! คิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้าพลาดตกลงไปแล้วจะเป็นยังไง ถึงมันจะชั้นสองแต่ถ้าตกไปข้างล่างจริงๆนายก็มีสิทธิ์บาดเจ็บได้นะ!”
ผมตวาดใส่เจ้าเด็กไม่รู้จักระมัดระวังตัวคนนี้อย่างหงุดหงิด
ลำพังแค่คอยดูแลเด็กที่ถูกพวกเด็กอภิสิทธิ์รังแกผมก็วุ่นวายจะแย่ อย่าให้ต้องมามีภาระเพิ่มเพราะหมอนี่เลย
“ใจดีจังเลยนะครับ เป็นห่วงผมด้วย เห็นเอาแต่หลบหน้าก็คิดว่าเกลียดกันซะอีก”
“ฉันจะเกลียดนักศึกษาได้ยังไง ที่หลบหน้าก็เพราะรำคาญการตามตื๊อเหมือนโรคจิตของนายต่างหาก”
“ถ้าไม่อยากให้ตื๊อก็ยอมเป็นผัวผมสักทีสิ เอากันแค่ครั้งเดียวก็ได้”
เจ้าหัวแดงชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วราวกับจะอ้อนวอน มองจากภายนอกแล้วไม่คิดเลยว่าหมอนี่จะเป็นพวกรักร่วมเพศไปได้
ผมสีแดงเพลิงราวกับเปลวไฟมัดรวบไปด้านหลัง (อ้อ หนังยางที่ใช้มัดเป็นยางรัดข้าวแกงนะ เห็นว่าแค่ก้มๆเงยๆแถวพื้นถนนข้างทางนิดหน่อยก็เจอแล้ว)
เสื้อนักศึกษาที่ไม่เคยยัดใส่ไปในกางเกงให้เรียบร้อยเลยถูกแกะกระดุมออกจนหมดเผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีดำด้านใน
กางเกงยีนส์ขาดๆพับขาขึ้นมาจนถึงหน้าแข้ง
รองเท้าแตะแบบหนีบคู่ใจที่คนทั่วไปเรียกมันว่ายี่ห้อ ‘ช้างดาว’
เจาะหูใส่ห่วงเรียงกันลงมาเป็นตับจนแทบไม่มีที่ว่าง
สวมสร้อยคอทำจากโซ่ขนาดใหญ่ ( แต่ผมมองว่ามันคือปลอกคอของสุนัขล่าเนื้อมากกว่า )
ส่วนสูงเตี้ยกว่าผมเล็กน้อย แต่ขนาดลำตัวไม่ค่อยจะต่างกันมากนัก ที่สำคัญ…หมอนี่พละกำลังมากเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปหลายเท่า!
“เสียใจด้วย แต่นายไม่ใช่รสนิยมของฉัน”
ตอบกลับไปแค่นั้นก็ล้วงหยิบเอาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบ
ปกติผมไม่สูบบุหรี่ต่อหน้านักศึกษาหรือให้ใครเห็นมากนักหรอก แต่พอเจอหน้าเด็กคนนี้ทีไรเครียดจนไมเกรนถามหาทุกที
ฟู่…
พ่นควันบุหรี่ออกก่อนจะถอดแว่นกรอบดำอันใหญ่ที่ใช้อำพรางใบหน้ามาตลอดตั้งแต่เข้ามาเป็นอาจารย์ที่นี่ ถ้าไม่ทำตัวให้ดูเฉิ่มเชยหรือว่าเหมือนพวกตาแก่เข้าไว้ปัญหามันจะตามมาได้ สมัยเรียนผมแทบไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากวิ่งหนีพวกสาวๆที่คอยตามตื๊อทุกวัน พอเรียนจบมาก็ตั้งใจว่าตอนเป็นอาจารย์จะต้องไม่มีปัญหาแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาดเลยแก้ไขด้วยวิธีนี้
“หล่อจัง”
เปรยตามองคนพูดเล็กน้อย ก่อนจะดูดเอาบุหรี่เข้าปอดไปอีกรอบ ความจริงก็สงสัยอยู่ว่าอะไรในตัวผมทำให้เขาติดใจถึงขั้นอยากจะได้เป็นผัว แต่ถ้าถามมันจะกลายเป็นการให้ความสนใจขึ้นมาในทันที ผมเลยคิดว่าควรจะหลีกเลี่ยงเอาไว้ดีกว่า
ตุ้บ!
คนหัวแดงกระโดดลงจากขอบหน้าตาก ลากเก้าอี้ฝั่งตรงกับโต๊ะทำงานของผมไปนั่งแบบหันหน้าเข้าหาพนักพิง ท้าวแขนลงกับขอบแล้วเกยคางทับกับแขนไปอีกที
สายตาจับจ้องมาที่ผม…
“มองให้ตายฉันก็ไม่มีทางมีอะไรกับนายเด็ดขาด”
“ทำไมล่ะ ผมไม่น่ารักเหรอ”
นึกถึงวันที่หมอนี่กระทืบเด็กพวกนั้นจนปางตายแล้ว…
จะให้ผมสอดส่องหาคำว่าน่ารักจากส่วนไหนดีล่ะ เฮ้อ!
“ไต้ฝุ่น ฟังฉันนะ…”
“นี่ไงล่ะ! เห็นไหม มีแค่อาจารย์คนเดียวเท่านั้นที่เรียกชื่อผมตลอด ส่วนคนอื่นๆเอาแต่เรียกว่าไอ้นักเลงบ้างล่ะ ไอ้อันธพาลบ้างล่ะ เจ้าหัวสีเลือดบ้างล่ะ แม้แต่พวกอาจารย์คนอื่นๆยังเรียกผมว่าคุณนักศึกษาผมแดงเลย แถมยังเรียกด้วยท่าทางหวาดกลัวเหมือนผมเป็นฆาตกรอีก”
“นั่นไม่ใช่เพราะตาของนายมันน่ากลัวหรือไง หัดจ้องมองคนอื่นด้วยแววตาที่อ่อนลงกว่านี้ไม่เป็นเหรอ มองแบบนี้มันเหมือนหาเรื่องมากกว่านะ”
ขยี้บุหรี่ลงบนที่เขี่ยซึ่งซ่อนเอาไว้ในลิ้นชักก่อนจะหยิบสเปรย์ดับกลิ่นปากขึ้นมาฉีดใส่ปากแล้วตามด้วยพรมน้ำหอมกับเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อกำจัดกลิ่นบุหรี่
“ผมก็อยากจะทำแบบที่อาจารย์ว่าเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็มองทุกคนด้วยสายตาที่เป็นมิตรกว่านี้ไม่ได้เลย ทั้งที่เปิดเทอมมาจะสองอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังหาเพื่อนไม่ได้สักคน ลำบากจริงแฮะ ชีวิตเด็กมหา’ลัยเนี่ย”
“…”
“ผมน่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครกลัวสักหน่อย ผมเองก็อยากจะมีเพื่อนและใช้ชีวิตเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปเหมือนกันนะ”
เอาอีกแล้ว…
เจ้าเด็กคนนี้ชอบมาพูดอะไรทำนองนี้ให้ผมฟังอยู่เป็นประจำ แล้วมักจะจบลงตรงที่ก้มมองฝ่ามือของตัวเอง ใบหน้าที่เจ็บปวดขนาดนั้นทำให้สุดท้ายแล้วผมไม่เคยทอดทิ้งเขาไว้ได้คนเดียวจริงๆสักที
ก็เป็นอาจารย์นี่นะ…
นักศึกษาคือลูกศิษย์ ผมไม่ต้องการให้เด็กในมหา’ลัยที่ผมทำงานอยู่ต้องมานั่งระบายความทุกข์ให้ฟังทุกวันแบบนี้หรอก
หมับ…
“ฉันเชื่อนะ”
ผมลุกเดินไปนั่งลงตรงหน้าไต้ฝุ่นทำให้เขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงเลยหัวไปมาก จับเก้าอี้ที่อีกฝ่ายนั่งให้พลิกมาหา สองมือว่างทาบลงไปบนที่วางแขน
“จะต้องมีคนที่ต้องการเด็กนิสัยแบบนายเป็นเพื่อนอยู่แน่ๆ ใครสักคน…ที่ไม่กลัวดวงตาปิศาจแมวของนาย”
เผลอตัวยื่นมือขึ้นไปแตะที่เปลือกตาของไต้ฝุ่นเบาๆ ถึงจะเก่งเรื่องชกต่อยแค่ไหนแต่ความจริงก็ยังเป็นแค่เด็กที่ต้องการมีเพื่อนล่ะนะ
“อาจารย์…”
“เฮ้ยย!”
โครม!!!
“ผมอยากได้อาจารย์เป็นผัวจริงๆนั่นแหละ”
“ไอ้เจ้าบ้า ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย เสื้อกราวน์ฉันเปื้อนหมดแล้ว”
“ไม่เอาอ่ะ ขอผมอยู่แบบนี้สักพัก”
ยืนยันจะไม่ลุกท่าเดียว
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วปล่อยให้ไต้ฝุ่นที่กระโจนเข้ามากอดผมจนหงายหลังล้มกลิ้งไปกับพื้นด้วยซุกหน้ากับแผงอกไว้อย่างนั้น วงแขนของเขาโอบรอบเอวผมไว้แน่น…แน่น…
แน่นไปแล้วเฟ้ย!
ออกแรงมากขนาดนี้เครื่องในฉันมันจะทะลุออกทางปากเอา!
“ต้องขอบคุณมากเลยนะครับอาจารย์ที่อุตส่าห์สละเวลามาถึงที่นี่”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มีนักศึกษาบาดเจ็บ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าเอกภาษาต่างประเทศมีธุระอะไรกับโรงยิมก็เถอะนะ
ผมเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องเตรียมตัวกลับไปประจำห้องพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากที่เดินเลี้ยวโค้งพ้นประตูโรงยิมมาได้ไม่ถึงห้าก้าว…
“ผัวคร้าบบบบบ!”
หมับ!!!
เจ้าลิงหัวแดงที่ไม่รู้ไปแอบอยู่ตรงซอกหลืบไหนมาก็กระโดดขึ้นมาเกาะหลังทันที แถมยังเอาแก้มมาถูไถแก้มผมไปมาเพื่ออ้อนตามแบบที่ชอบทำ
หมายถึงหมอนี่นะที่ชอบ ไม่ใช่ผม…
“ลงไปเดี๋ยวนี้”
ออกคำสั่งโดยที่ยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ โชคดีที่แถวโรงยิมไม่ค่อยมีคนมามากนัก ถ้าจะมีก็เฉพาะนักศึกษาที่จำเป็นต้องใช้โรงยิมในการเรียนเฉยๆ
“เย็นชากับเมียขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เอาๆ ผมคิดถึงอาจารย์จะแย่แล้วรู้ไหม”
“คิดว่าตัวเองเป็นสาวน้อยตัวเล็กๆเหรอ เกาะหลังฉันแบบนี้มันอาจทำให้กระดูกหลังและคอของฉันเคลื่อนได้นะ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าผัวจ๋าชอบสาวน้อยมากกว่าแมนๆอย่างผมงั้นเหรอ!”
“นั่นเป็นคำถามที่ต้องการให้ตอบจริงๆใช่ไหม?”
หมับ…!
“ไม่เอา ห้ามตอบนะ ผัวเป็นของเมีย เมียเป็นของผัว”
“เฮ้อ…”
หมดปัญญาจะไล่แล้วจริงๆ
ไต้ฝุ่นเอนหน้าซบกับแผ่นหลังของผมและไม่มีทีท่าว่าจะยอมลง การกระทำของเขาสร้างความเครียดให้แบบเฉียบพลันจนต้องรีบเลี้ยวเข้าห้องน้ำชายที่อยู่ตรงหน้าพอดี
“เข้ามาทำอะไรเหรอครับ อย่าบอกนะว่า…!”
“ฉันแค่จะสูบบุหรี่”
ล้วงหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงให้ไต้ฝุ่นดู มองไปยังกระจกที่สะท้อนภาพของผมกับเขาอยู่ก็เห็นว่าเจ้าลิงหัวแดงเบ้ปากอย่างขัดใจเมื่อผมไม่ได้กำลังจะทำในสิ่งที่เขาต้องการ
“เครียดอีกแล้วเหรอครับ”
“ใช่”
“เรื่องงานเหรอ”
“เรื่องนายนั่นแหละ”
ตอกกลับไปตรงๆก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมา ถึงหมอนี่จะไม่ได้ตัวหนักอะไรมากมายแต่มาเกาะหลังกันนานๆแบบนี้มันก็เริ่มจะปวดเมื่อยเหมือนกันนะ
ร่างกายผมไม่ได้ทำจากเหล็ก แบกเด็กหนุ่มตัวโตนานๆไม่ไหวหรอก!
อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบแปดแล้วด้วย เฮ้อ!
จ้อกแจ้กๆๆๆ
“โอ๊ะ! มีคนกำลังมาล่ะ”
บ้าเอ๊ย!
ผมเปิดน้ำตรงอ่างล่างหน้าเพื่อดับบุหรี่ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปในถังขยะแล้ววิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำห้องในสุดก่อน โดยลืมไปเสียสนิทเลยว่าบนหลัง…
มีเจ้าลิงหัวแดงติดสอยห้อยตามมาด้วย!
ตึก…ตึก…ตึก…
เสียงที่เท้าดังเข้ามาด้านในห้องน้ำพร้อมกับเสียงคนคุยกัน ถ้าจำไม่ผิดเป็นเสียงของอาจารย์ที่ผมเจอเมื่อกี้ในโรงยิมกับอาจารย์ผู้ช่วยของเขา
มาทำไมตอนนี้ล่ะเนี่ย!
“ผมทราบมาว่าเย็นนี้จะมีการลงโทษพวกเด็กไร้ประโยชน์อีก แบบนั้นมันจะแย่ไม่แย่เหรอครับ”
เสียงอาจารย์ผู้ช่วยเอ่ยถาม ตอนผมเข้ามาทำงานที่นี่แรกๆ ผมเองก็เคยเอ่ยถามแบบนั้นไปเหมือนกัน…
“อาจารย์กินเงินเดือนแบบพวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก ถึงจะไม่เห็นด้วยหรือต้องการแย้งแค่ไหน เสียงเล็กๆจากคนไม่มีอำนาจอย่างพวกเราไม่สามารถสะเทือนอำนาจของผู้มีอิทธิพลคนไหนได้สักคน ถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข ควรทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นจะดีกว่า”
“แย่เลยนะครับแบบนี้…”
“เพราะนักศึกษาที่คอยสั่งการทุกคนและเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดมีอิทธิพลมากเสียจนไม่มีใครกล้าแตะต้องน่ะสิ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ใครเหรอ?”
“ผมเองก็ไม่เคยได้สอนเขาหรอกนะ เลยไม่เคยตัวจริง แต่เขาเป็นอัจฉริยะในหลายๆด้าน แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าเรียนและอ่านหนังสือแต่กลับทำคะแนนสอบได้เต็มจนขึ้นเป็นที่หนึ่งของประเทศ ความสามารถของเขาอยู่ในระดับพระเจ้าเลยด้วยซ้ำ รู้สึกว่าเขาจะชื่อ…แฟนธ่อม อัจฉริยะที่ถูกขนานนามว่าเป็นอสุรกาย นักศึกษาที่คิดกำจัดคนไร้ประโยชน์โดยบอกว่าเด็กพวกนั้นคือขยะของโลกใบนี้”
ขยุกขยิกๆๆ
ขณะที่กำลังแอบฟังบทสนทนาของอาจารย์ทั้งสอง ร่างกายเริ่มรับรู้ได้ว่ากำลังถูกคุกคามจากเจ้าลิงหัวแดงบนหลัง มือหยาบนิดๆล้วงเข้าไปลูบไล้แผงกล้ามหน้าท้องเพื่อปลุกเร้าอารมณ์
“ถ้าทนไม่ไหว ให้ผมช่วยก็ได้นะ”
เสียงแหบปร่ากระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหู…
บับเบิ้ลบิวชวนคุย**:**
มาอัพตอนที่ 1 เพิ่มจ้า มีความเรียกผัวเรียกเมียกันตั้งแต่ตอนแรกเลยทีเดียว ไต้ฝุ่นท่าจะโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงสมชื่อ 5555+ แล้วแบบนี้อาจารย์สุดหล่อของเราจะทนไหวหรือเปล่าเนี่ย แต่พอมาคิดภาพของไต้ฝุ่นตามที่อาจารย์บรรยายแล้ว…
ดูไม่ออกจริงๆว่าจะมีรสนิยมแบบนี้ ก๊ากๆๆๆ
เอาเป็นว่ามาเอาใจช่วยให้ไต้ฝุ่นจับอาจารย์ทำผัวได้สำเร็จ หรือไม่อาจารย์ก็หนีพ้นเงื้อมมือไต้ฝุ่นได้สำเร็จดีกว่า มีสองทางให้เลือก จะเลือกข้อไหนดีเอ่ยยยยย แล้วอสุรกายแฟนธ่อมผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อันเลวร้ายในมหาวิทยาลัยตัวจริงจะเป็นคนแบบไหนกันนะ??