เมื่อ 1,000 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน เทือกเขาวิรูปักษาทางตอนใต้ของแม่น้ำที่ทอดยาวแห่งนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในแถบนี้จะให้ความเคารพนับถือ เชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของเหล่าลุกขเทวดา และอมนุษย์ทั้งหลาย
ตามตำนานเล่าว่า ครุฑถือเป็นพญาแห่งนก เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ที่มีอานุภาพและพละกำลังอันมหาศาล ครุฑเป็นสัตว์ที่แข็งแรง และสามารถบินได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่ยังคงอุปนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนและมีสัมมาคารวะได้เป็นอย่างดี ทำให้พระนารายณ์เลือกใช้ครุฑในการเป็นพาหนะสำหรับการเดินทาง นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า ปกติแล้วครุฑจะอาศัยอยู่ที่วิมาน และมีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ครุฑเป็นสัตว์ที่ได้รับพรว่าไม่มีวันตาย และไม่มีอาวุธชนิดใดที่จะสามารถฆ่ามันลงได้ แม้กระทั่ง สายฟ้าของพระอินทร์ก็ยังไม่สามารถทำอันตรายต่อครุฑได้มากกว่าการทำให้ขนครุฑร่วงหลุดลงมาเพียงเส้นเดียวเท่านั้นเอง เพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้ครุฑถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สุบรรณ” หรือมีความหมายว่า “ขนวิเศษ”
เทือกเขาวิรูปักษา เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดอยู่ทางตอนใต้ของลุ่มน้ำ เป็นที่อยู่ของพญาครุฑ มีวิมารสูงใหญ่เรียงรายอยู่บนยอดเขา วิมานสีทองที่อยู่ตรงกลางของเทือกเขาวิรูปักษา เป็นวิมานของพญาสุบรรณวิรูปักษาผู้ปกครองเหล่าพญาครุฑทั้งหลาย มีสระน้ำล้อมรอบวิมานทั้ง 4 ทิศ มีดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลอยู่ตลอดทั้งปี
เทือกเขาวิรูปักษาหากมองเพียงผิวเผิน ก็เป็นเหมือนเทือกเขาทั่วไปที่มีความสูงมากที่สุดในแถบนี้เท่านั้นเอง และเป็นเทือกเขาต้องห้ามที่ชาวบ้านอยู่ในละแวกนั้น หรือแม้แต่คนนอกที่เข้ามาก็ไม่มีใครกล้าย่างกลายเข้าไปแม้แต่คนเดียว หากมีใครหลงเข้าไปในเทือกเขาแห่งนี้จะไม่มีทางได้กลับออกมาอีกเลย
ส่วนทางตอนเหนือของแม่น้ำ ชาวบ้านมักเชื่อกันว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ใน หรือมีเมืองใต้บาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่
ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดงเกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี เหมือนสีของรุ้ง และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท เล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม
ณ หมู่บ้านวลาหค
"พ่อผู้ใหญ่ๆ มีคนอยู่บ้านบ่น้อ พ่อผู้ใหญ่?"
"มีหยังบักทิศ มึงสิตะโกนเสียงดังเฮ็ดหยัง มีเรื่องสำคัญอีหยังเว่ามา"
"พอดีข่อยพานายช่างใหญ่มาหา มีเรื่องสิเว่านำพ่อผู้ใหญ่"
"สวัสดีครับ พ่อผู้ใหญ่" นายชั่งใหญ่ผู้ควบคุมงานสัมปทานทางด้านท้ายหมู่บ้านได้เดินทางมาพบพ่อผู่ใหญ่เพื่อปรึกษาหารือในเรื่องต่างๆ และมีเรื่องสำคัญที่ต้องมาขอความร่วมมือจากพ่อผู้ใหญ่ให้ช่วย
"สวัสดีนายช่าง มีหยังให้ข่อยซอยอยู่บ่? เว่ามาโลดบ่ต้องเกรงใจคนกันเอง"
"ผมก็มีเรื่องอยากให้พ่อผู้ใหญ่ช่วยนิดหน่อยครับ พอดีว่าอาทิตย์หน้าจะมีนักศึกษามาฝึกงานกับผม 3 คน ผมอยากให้พ่อผู่ใหญ่ช่วยจัดหาที่พักให้เด็กที่มาฝึกงานกับผมหน่อย ที่ไซน์งานท้ายหมู่บ้านตอนนี้ที่พักเต็มหมดเลยครับ ไม่ทราบว่าผมจะรบกวนพ่อผู้ใหญ่มากเกินไปหรือเปล่า" นายช่างใหญ่ควบคุมงานสัมปทานท้ายหมู่บ้านเอ่ยกับพ่อผู้ใหญ่ด้วยความเกรงใจ
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ที่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านวลาหคใกล้กับแม่น้ำ มีบ้านพักอยู่ใช้เป็นที่รับรองแขกเวลามีแขกคนสำคัญเข้ามาในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้มันบ่ได้ใช่แล้ว เดี๋ยวผมจะส่งคนไปทำความสะอาดไว้ให้"
"ขอบคุณครับพ่อผู้ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ"
"อืม! มีหยังให้ข่อยซอยอีก ก็มาบอกได้เด้อนายช่างใหญ่ ขาดเหลืออีหยังก็ส่งคนมาบอกผมได้ บ่ต้องเกรงใจ"
"ครับผม"
"เดี๋ยวก่อนนายช่างใหญ่ ผมฝากกำชับคนงานท้ายหมู่บ้านเรื่องเทือกเขาต้องห้ามอีกครั้งด้วยนะครับ ถ้ามีคนขัดคำสั่งผม ผมบ่ขอรับรองความปลอดภัยเด็ดขาด!"
"ได้ครับ ผมจะกำชับคนงานของผมให้อีกครั้งนะครับ"
"ขอบใจหลาย บักทิศ! มึงไปส่งนายช่างไป แล้วส่งคนไปทำความสะอาดบ้านให้นายช่างด้วย"
"ได้ครับพ่อผู้ใหญ่"
"ไป ฟ้าวไป"
หลังจากคุยธุระเสร็จนายช่างใหญ่ก็ขอตัวออกไปทำงานต่อ งานสัมปทานที่ท้ายหมู่บ้านเป็นงานสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งใช้ระยะเวลาทำค่อนข้างนาน กำหนดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ตอนนี้โครงการก็คืบหน้าไปมากพอสมควร ที่พักคนงานท้ายหมู่บ้านจะเป็นที่พักที่สร้างขึ้นมาใหม่ มีแรงงานรวมเกือบร้อยกว่าชีวิต ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว
หมู่บ้านวลาหคตั้งอยู่ฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำใกล้กับเทือกเขาวิรูปักษา มีประชากรประมาณร้อยกว่าครัวเรือน เทือกเขาวิรูปักษาเป็นเทือกเขาต้องห้ามที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแม้แต่คนเดียว ถึงแม้เทือกเขาที่สูงใหญ่เทียมฟ้าจะอุดมสมบูรณ์มากมายเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ส่งกลิ่นหอมอยู่ตลอดทั้งปีก็ตาม หากมีใครหลงเข้าไปข้างในจะไม่มีทางได้กลับออกมาอีก ชาวบ้านจึงต้องกำชับทั้งคนในหมู่บ้านและคนงานที่มาทำสัมปทานอยู่ท้ายหมู่บ้าน ห้ามมีใครเข้าไปข้างในหรือเข้าใกล้อาณาบริเวรเทือกเขาวิรูปักษาแห่งนี้เป็นอันขาด
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งล้วนๆ มีภาษาอีสานผสมในเนื้อเรื่องเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านมากขึ้น
"ความรัก ความแค้น ของสองเผ่าพันธุ์ระหว่างครุฑกับนาค"
จะเป็นอย่างไร? จะเปลี่ยนจากความแค้นเป็นความรักได้หรือไม่?
#โปรดติดตาม#