ร้อยเรียงความฝัน...สู่การตีความนิยาย ‘ธัญล่าฝัน’ ทั้ง 3 อันดับ

 

 

ร้อยเรียงความฝัน...สู่การตีความนิยาย

ธัญล่าฝัน’ ทั้ง 3 อันดับ

 

#

 

 

            เย่!! ในที่สุดก็ได้รู้ผลการประกวดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกวดนิยายเรื่องยาวครั้งแรกของธัญวลัยกับโครงการ ธัญล่าฝัน...เสกนิยายด้วยปลายปากกา ธัญญ่าขอแสดงความยินดีกับทั้งสามเรื่องที่ได้รับรางวัลด้วยนะคะ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้แต่ละเรื่องนั้นยอดเยี่ยมมากๆ

            ช่วงเวลาแห่งการตัดสินที่ผ่านมานั้นธัญญ่าหนักใจมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะว่านิยายแต่ละเรื่องที่ผ่านเข้ารอบ ทั้งอ่านสนุกและน่าสนใจทุกเรื่องเลยยย แต่เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่านอกจากจะได้อ่านนิยายที่มีเนื้อหาสนุกๆ ชวนติดตามแล้ว สิ่งสำคัญที่ธัญญ่าได้รับจากการประกวดในครั้งนี้ก็คือ ธัญญ่าได้เห็นการตีความความฝันของนักเขียนแต่ละคนที่แทบไม่เหมือนกันเลยค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจและทำให้ธัญญ่าประทับใจมากๆ บางเรื่องธัญญ่าอ่านแล้วชอบมากจนถึงกับร้อง ว้าวววว ออกมาเลยทีเดียว ทีนี้เรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าทั้งสามเรื่องที่ได้รับรางวัลนั้น นักเขียนได้ตีความความฝันเอาไว้ว่ายังไงบ้าง

 

 

 

รางวัลชนะเลิศ

 

Lucid dream 

 

โดย BBB-Butterfly

 

 

#

 

 

"ผมไม่รู้ว่าเราเคยพบกันมาก่อนรึเปล่า แต่เขาทำให้ผมคิดถึงคนในฝันเหลือเกิน

ฝันที่แสนยาวนาน ฝันที่พร่าเลือนจนแทบจะจำอะไรไม่ได้อีกแล้วรู้แต่ว่า

เขาคือคนที่เข้ามาในฝัน และทำให้ผมรู้จักกับความรัก..."

 

            โปรยมาแบบนี้เพื่อนๆ อาจจะงง งั้นธัญญ่าขอเกริ่นก่อนว่านิยายเรื่อง Lucid dream เป็นนิยายแนววายโรแมนติกที่กึ่งๆ วิทยาศาสตร์ อ๊ะ แต่ไม่ต้องกลัวว่ามาแนวนี้แล้วจะวิทยาศาสตร์จ๋าจนทำให้อ่านยากหรือทำให้ความสนุกลดลงนะคะ เพราะธัญญ่าบอกเลยว่านักเขียนนั้นเล่นกับความฝันที่ตัวเองวางขึ้นมาได้อย่างสนุกและน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว 

 

#

 

            และความฝันที่นักเขียนนำมาตีความในเรื่องนี้ก็คือเรื่องของ Lucid dream ค่ะ เพื่อนๆ บางคนอาจเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่ถ้าใครไม่คุ้น ธัญญ่าก็จะขอเล่าให้ฟังสั้นๆ ว่า Lucid dream คือ อาการฝันรู้ตัว โดยคนฝันรู้ตัวว่ากำลังฝันและสามารถควบคุมความฝันนั้นได้! โอ้โห แค่รู้ตัวว่าฝันก็เก่งแล้วยังควบคุมความฝันได้อีก ตรงนี้ถ้าใครเคยฝันแบบรู้ตัวว่ากำลังฝันอยู่ ก็จะเข้าใจความหมายของคำนี้ได้ค่อนข้างลึกซึ้งทีเดียวค่ะ

            ซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้นักเขียนไม่ได้จินตนาการขึ้นมาเอง แต่ว่าในทางวงการวิทยาศาสตร์แล้ว Lucid dream นั้นมีอยู่จริงๆ และนักเขียนได้นำเสนอภาพของ Lucid dream ที่ฟังดูเป็นนามธรรมนั้นออกมาเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะค่ะ

            โดยนักเขียนได้เพิ่มกลิ่นอายความเป็นนิยายกึ่งวิทยาศาสตร์เข้าไปใน Lucid dream ด้วยการสร้างฉากทดลองใน Dream lab หรือ ห้องปฏิบัติการทางความฝันขึ้นมา โดยเป็นสถานที่ที่ตัวละครในเรื่องจะสามารถควบคุมความฝันได้ นักเขียนเปิดเรื่องมาด้วยฉากที่ไกด์หนุ่มอย่าง 'ติณณ์' จะต้องเข้าไปในฝันของ 'เทียน' เพื่อช่วยควบคุมความฝัน ธัญญ่าแอบกระซิบนิดๆ ว่าพระ-นายในเรื่องนี้ดีต่อใจมากๆ บางฉากนี่บทจะฟินก็ฟินจนธัญญ่าแทบไหลลงไปกองเลยล่ะค่า

 

            ในการตีความความฝันนั้น นักเขียนมองว่า...ความฝัน คือพื้นที่สำหรับปลดปล่อยจินตนาการ และนิยายเรื่องนี้คือความฝันในมุมมองของวิทยาศาสตร์...ดังนั้นในนิยายเรื่อง Lucid dream จึงเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่มีเหตุผล...และความน่าทึ่งของเรื่องนี้อีกอย่างคือนักเขียนเลือกที่จะหยิบยกความเป็นนามธรรมของความฝันมาใช้ร่วมกับความเป็นวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นความฝันของคนเราที่ถูกปั้นแต่งจนหอมหวาน ทำให้ตัวตนของเขาเหล่านั้นติดอยู่ในฝัน จนกระทั่งไม่อยากแม้แต่จะลืมตาตื่นขึ้นมา...ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของสิ่งที่เรียกว่า ความฝัน

            Lucid dream จึงเต็มไปด้วยความสนุก น่าค้นหาและชวนลุ้นไปพร้อมๆ กันกับตัวละคร ถ้าใครยังไม่ได้ลองอ่าน ธัญญ่าขอชวนเพื่อนๆ มาร่วมติดตามและให้กำลังใจนักเขียนได้ใน Lucid dream   พี่ติณณ์และน้องเทียนรอให้เพื่อนๆ มาหาคำตอบของ Lucid dream กันอยู่นะคะ

 

 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

 

ปากกาวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด ความฝันใดงามเลิศในปฐพี (Sleeping Dream)

 

โดย Vividist

 

#

 

“นั่นคือจักรวาลของฉัน สิ่งที่ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่รู้จุดสิ้นสุด

แต่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ไม่ทำตามไม่ได้!

 

 “ถ้ามัวแต่ผจญภัยในโลกของความฝัน แล้วตัวตนที่แท้จริงของเธอล่ะ

อยู่ที่ไหน?”

 

            ว้าวววว แค่คำโปรยแรกเริ่มก็ทำเอาธัญญ่าชะงักเลยทีเดียว นิยายเรื่อง ปากกาวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด ความฝันใดงามเลิศในปฐพี (Sleeping Dream) เป็นนิยายแนวจีนแฟนตาซี อิงประวัติศาสตร์จีนเล็กน้อยพอกรุบกริบ ซึ่งความสนุกของเรื่องยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกเมื่อนักเขียนใช้การดำเนินเรื่องสไตล์คอมเมดี้สุดแสนน่ารัก

            ขอเท้าความสักนิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ เจียงหนานหนานเด็กสาวคนหนึ่งที่นักเขียนให้คำนิยามว่าเป็นบุคคลที่ แมสในแมส เพราะเจียงหนานเป็นเพียงเด็กสาวที่ไม่มีเป้าหมายใดๆ ในชีวิต เธอมัวแต่เพ้อฝันและใช้ชีวิตไปวันๆ ตามแบบฉบับของ 'ลูสเซอร์' แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเธอโดนตาเฒ่านักต้มตุ๋นหลอกให้ซื้อปากกาด้ามหนึ่ง ความมหัศจรรย์ก็คือปากกาด้ามนั้นสามารถเนรมิตความฝันให้เธอได้!เอาล่ะสิคะ เมื่อคนที่ไม่เคยมีความฝันในชีวิตจริงกลับต้องมาฝันเป็นเรื่องเป็นราวเพียงเพราะปากกาด้ามเดียวที่เนรมิตฝันได้มหากาพย์การเดินทางในฝันของเธอถึงได้จึงเริ่มต้นขึ้น

 

#

             

            ความฝันที่ถูกนำมาตีความในเรื่องนี้ก็คือ Sleeping Dream ซึ่งแปลว่า ‘ความฝันที่หลับใหล’ โดยนักเขียนมองว่า

            เพราะโลกของเรามีทั้งคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความฝันยามหลับตาแต่เป็นปฏิปักษ์ต่อโลกแห่งความจริง คนที่กำลังหันเหจากความฝันเพราะถูกแรงกดดันจากสังคมตีกรอบ หรือคนที่ไม่รู้จักฝันแม้กระทั่งตอนลืมตาตื่น ถึงตรงนี้แล้วก็เปรียบเทียบง่ายๆ ว่าคนเหล่านั้นกำลัง ‘หลับใหล’ หรือ ‘ตกอยู่ในภวังค์ฝัน’ จึงเป็นจุดกำเนิดของตัวละครหลักของเรื่อง นั่นก็คือ เจียงหนานหนาน หยางซี เฉิงป้าย”

            ทั้งนี้นักเขียนยังได้เลือกฉากเป็นวัยมัธยม เพราะเชื่อว่านั่นคือจุดหักเหแรกของชีวิตที่หลายๆ คนก้าวผ่านมาแล้วหรือกำลังจะต้องประสบพบเจอในไม่ช้า

            อู้หูววว แค่การตีความความฝันของนักเขียนก็ทั้งเฉียบคมและน่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่าในเรื่องนั้นนอกจากสนุกครบรสแล้ว ยังมีข้อคิดคมๆ ที่ให้เราได้ฉุกคิดตลอดเวลาอีกด้วยล่ะค่ะ

            ว่าแต่ปากกาวิเศษด้ามนั้น จะบอกเราได้ไหมนะว่าความฝันใดที่งามเลิศในปฐพี มาค่ะ มาร่วมกันหาคำตอบและให้กำลังใจนักเขียนได้ใน ปากกาวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด ความฝันใดงามเลิศในปฐพี คลิกปากกาวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด ความฝันใดงามเลิศในปฐพี (Sleeping Dream) 

 

 

 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2

 

The demigod of dream

สุดแดนฝัน

โดย KittenLightSaber

 

#

 

 

"ฉันไม่ได้ตั้งใจฝันถึงนายสักหน่อย

เพราะงั้นอยู่ๆ นายจะเข้ามาเพ่นพ่านในความฝันของฉันไม่ได้นะ!"

 

            และแล้วก็มาถึง The demigod of dream –สุดแดนฝัน- เรื่องนี้เป็นนิยายแนวแอคชันแฟนตาซีปนโรแมนติกค่ะ แต่ธัญญ่าบอกก่อนว่าถึงมีจะมีความแอคชันอยู่หน่อยๆ ก็จะเป็นฉากแอคชันที่ปนสีพาสเทลซะมาก

            สุดแดนฝัน คือเรื่องราวของมนุษย์สาวลูสเซอร์อย่าง คาลิสต้า และชายหนุ่มจอมโจรความฝันที่มีสายเลือดเทพอย่าง อลาทอร์ ทั้งคู่มักจะเจอกันในความฝันของคาลิสต้าเพราะว่าเธอนั้นเบื่อโลกแห่งความจริง จึงมักหลีกหนีมันด้วยการหลับฝัน เพราะในฝันนั้นเธอสามารถควบคุมได้แม้แต่ดาวบนท้องฟ้า!

             

#

 

            ในเรื่องนี้นักเขียนได้ตีความ 'ความฝัน' เป็นอีกโลกหนึ่ง โดยการฉีกความฝันออกจากโลกแห่งความเป็นจริง นักเขียนได้สร้างโลกแห่งความฝันขึ้นมา เป็นโลกที่ตัวละครจะทำอะไรก็ได้ในความฝันของตัวเอง แทนความฝันให้กลายเป็นสิ่งที่ตัวละครปรารถนา มากกว่าความเป็นจริงที่ตัวละครเบื่อหน่ายและเกลียดชังนั่นเองค่ะ จะเห็นได้ว่า คาลิสต้า มักจะเลือกอยู่ในโลกความฝันมากกว่าความเป็นจริงเสมอจนกระทั่งเกิดจุดพลิกผันในฝันอันแสนหวานของเธอ!

            ฮันแน่ แค่อ่านที่ธัญญ่าเล่าก็น่าสนุกแล้วใช่ไหมล่ะคะ ธัญญ่าบอกเลยว่าเรื่องนี้คอนิยายแฟนตาซีพลาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะนักเขียนได้ใส่จินตนาการและความแฟนตาซีเข้ามาได้น่าอ่านมากๆ เลยค่ะ

            สุดท้ายแล้วเรื่องราวการต่อสู้ทั้งในความฝันและในโลกแห่งความเป็นจริงของคาลิสต้าและอลาทอร์จะเป็นยังไง ธัญญ่าขอชวนเพื่อนๆ มาลุ้นไปพร้อมๆ กันใน  The demigod of dream –สุดแดนฝัน-  

 

            เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับนิยายทั้งที่ได้รับรางวัลทั้ง 3 อันดับ อันที่จริงธัญญ่าชอบการตีความและการเล่าเรื่องของทุกเรื่องเลยค่ะ เพราะเอาเข้าจริงแล้วก็มีความน่าสนใจและสนุกกันคนละแบบ ซึ่งบอกเลยว่ากว่าจะมาเป็นสามเรื่องสุดท้ายนั้นไม่ง่ายเลย แต่มั่นใจได้เลยว่าทีมงานได้คัดกรองกันมาอย่างเต็มที่

            แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับเรื่องที่ไม่ได้เข้ารอบ ธัญญ่าก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนมุ่งสู่เส้นทางแห่งการเป็นนักเขียนต่อไป อย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ ลองนำจุดที่คิดว่ายังสามารถพัฒนาในการเขียนได้ไปพัฒนาต่อยอด แล้วธัญญ่าเชื่อว่า วันหนึ่งความพยายามจะนำพาความสำเร็จมาให้ทุกคนแน่นอนค่ะ 

 

 

ขอขอบคุณ

freepik.com,

gotoknow.org/posts/91443

และ pixabay.com

 

 

 

 

3.5kอ่านประกาศ 2018-08-26T19:03:22.5600000+00:00ลงประกาศ

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด ()
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น