Sweet Moon เจ้าของผลงานสุดดราม่าอย่างเรื่อง Love Miscreant พันธะร้าย ทำลายรัก ที่เรียกน้ำตาจากชาวธัญวลัยจนท่วมจอ

หลังจากที่ธัญญ่าพาเพื่อนๆ ไปอู้คำเมืองกับนักเขียนสาวชาวเหนือกันมาแล้ว คราวนี้เราจะเหินฟ้าจากเมืองหลินฮุ่ยหลินปิง ข้ามลงมายังภาคกลางในดินแดนเมืองโอ่งมังกร เพื่อทำความรู้จักกับนักเขียนสาวเสียงเหน่อ นามปากกาแสนหวานว่า Sweet Moon เจ้าของผลงานสุดดราม่าอย่างเรื่อง Love Miscreant พันธะร้าย ทำลายรัก ที่เรียกน้ำตาจากชาวธัญวลัยจนท่วมจอ

ธัญญ่าขอแอบสปอยล์เบาๆ ว่า นอกจากจะดราม่าเข้าขั้นน้ำตาแตกแล้ว พระเอกสุดหล่อของเรื่องยังโหดร้ายทารุณ แถมยังเป็นบ้าอีกด้วย โอ้! คุณพระ (กรุณาทำเสียงให้เหน่อ) ใครที่อยากรู้ว่านักเขียนมีจุดประสงค์อะไร รวมถึงมีกลยุทธ์เด็ดๆ แบบไหนถึงเรียกน้ำตาจากคนอ่านได้ ต้องไม่พลาดกับบทสัมภาษณ์สดๆ ของเธอคนนี้ค่ะ

สวัสดีจ้า มาแนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักหน่อยเร้ว

สวัสดีค่ะ  ชื่อบุ๋มนะคะ เขียนนิยายเรื่อง Love Miscreant พันธะร้าย ทำลายรัก (http://www.tunwalai.com/story/76435) ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกของบุ๋มเลยค่ะที่ได้ตีพิมพ์

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

เรื่องนี้ออกแนวดราม่าค่ะ เพราะพระเอกที่เคยเป็นพี่ชายที่แสนดีของนางเอก จู่ๆ เมื่อเขาผิดหวังจากรักครั้งแรกก็ทำให้เขากลายเป็นคนเสียสตินิดๆ คล้ายคนบ้า ทำให้โหดร้ายขึ้น และด้วยความที่พระเอกไม่ชอบนางเอกอยู่แล้ว คิดว่านางเอกของเราจะมาเป็นแม่เลี้ยง อีกทั้งยังสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป เลยพาลมาร้ายกับนางเอกซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขาเอง

ดราม่าจริงๆ ด้วย แล้วมีจุดพลิกผันอะไรคะที่ทำให้พระนางทั้งสองมารักกันได้

แม้ว่าพระเอกจะเสียความทรงจำไป เดี๋ยวจำได้ เดี๋ยวจำไม่ได้ แต่ด้วยความที่ทั้งสองต้องมาอยู่ใกล้ชิดกันทุกวัน ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ร่วมกัน จนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาค่ะ

ปกติบุ๋มชอบอ่านหนังสือหรือดูหนังแนวดราม่าหรือเปล่าคะ

ถ้าหนังสือก็จะชอบอ่านแนวดราม่าค่ะ แต่ถ้าเป็นหนังจะชอบดูหนังสยองขวัญมากกว่า

ขอถามหน่อยค่ะว่าทำไมถึงเลือกใช้นามปากกานี้

อันนี้ก็...ไม่รู้เหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) ตอนแรกไม่ได้ใช้นามปากกานี้ แต่คิดว่าชื่อเก่าไม่เวิร์ค เลยเปลี่ยนใหม่มาเป็นชื่อนี้ค่ะ มีไปให้หมอดูตั้งชื่อมามั้ย? (หัวเราะ) เปล่าๆ ค่ะ จู่ๆ นึกชื่อนี้ออกมาเอง รู้สึกว่าแปลกดี ไม่ซ้ำกับใคร เลยเลือกใช้ชื่อนี้มาตลอดเลยค่ะ

แล้วปัจจุบันทำงานอะไรอยู่เอ่ย หรือเป็นนักเขียนมืออาชีพอยู่แล้วคะ

            ตอนนี้ช่วยงานที่บ้านอยู่ค่ะ ที่บ้านบุ๋มจะเปิดร้านขายของชำทั่วไปก็เลยมีเวลาว่างมาแต่งนิยาย ส่วนมากบุ๋มจะแต่งนิยายช่วงกลางคืน แต่บางทีเวลาที่คิดอะไรออกก็แวบออกไปพิมพ์ๆ ใส่โน้ตบุ๊กไว้กันลืม พิมพ์เสร็จก็ค่อยกลับมาช่วยงานที่ร้านต่อ (ยิ้ม)

เรื่องนี้ใช้เวลาเขียนนานเท่าไหร่คะ

สองเดือนค่ะ (เขียนทุกวันเลยหรือเปล่า?) ค่ะ เกือบทุกวันเลย แต่มีบ้างที่เว้นช่วงไปวันสองวันเพราะติดธุระ ถ้าไม่ติดอะไรก็จะพยายามอัปนิยายให้ได้ทุกวัน ช่วงไหนที่หายไปนานก็จะอัปทีเดียวหลายๆ ตอนเลยค่ะ

ทำงานไปด้วย เขียนนิยายไปด้วยแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอคะ

เหนื่อยนะ แต่สนุกดีค่ะ (ยิ้ม) ชอบช่วงเวลาที่นั่งพิมพ์นิยายค่ะ พอคิดอะไรได้ มือก็รัวใส่แป้นพิมพ์ไม่ยั้งเลย

มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้เขียนนิยายได้ไหลลื่นแบบนั้นเอ่ย

คือบุ๋มเป็นคนชอบวางพล็อตให้ละเอียดๆ ไว้ก่อนค่ะ สมมติอยากให้เรื่องนี้เป็นแบบนี้ก็จะวางหัวเรื่องไว้ก่อนเลย แล้วก็ค่อยมาวางต่อที่กลางเรื่องจนจบเรื่อง บุ๋มเคยแต่งนิยายเรื่องนึงที่ไม่ได้วางพล็อตไว้ก่อน อยู่ดีๆ นึกขึ้นมาได้ก็ลงมือเขียนเลย เขียนไปเรื่อยๆ ก็ตันไปต่อไม่ได้เลยค่ะ แต่กับเรื่องนี้ได้มีการวางพล็อตไว้ก่อน ทำให้เวลาที่เราตันๆ หรือห่างหายไม่ได้เขียนไปสองสามวันก็สามารถกลับมาเขียนต่อได้ ด้วยความที่เรามีภาพโครงเรื่องใหญ่ๆ ไว้ในหัวแล้ว ไม่ได้เขียนไปเรื่อยเปื่อยเหมือนตอนแรก สมมติมีฉากจะให้นางเอกของเราไปเที่ยว บุ๋มก็จะคิดว่า เออ จะให้มันไปยังไงดีวะ (หัวเราะ) จะนั่งรถตู้ หรือนั่งเครื่องบินไป บุ๋มก็จะคอยจดๆ ไว้ก่อน ขึ้นรถที่ไหน ลงที่ไหนจะจดไว้หมดเลย พอกลับมาอ่านอีกครั้ง เราก็ค่อยมาสร้างให้เป็นฉากๆ หนึ่งได้เลย โดยไม่ต้องคิดรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านั้นอีก

พันธร้าย ทำร้ายรัก ทำไมต้องเป็นชื่อนี้คะ

ที่ใช้คำว่า “พันธะ” เพราะพระนางของเรื่องเคยรักกันมาก่อนค่ะ อย่างที่สปอยล์ไว้ก่อนหน้าค่ะว่าพระเอกเคยเป็นพี่ชายที่แสนดีมาก่อน แต่ด้วยความที่มันมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนเยอะ เนื้อเรื่องเลยมีความเข้มข้น บุคลิกของพระเอกเลยมีหลายด้านค่ะ

แล้วชื่อนิยายภาษาอังกฤษ LoveMiscreant เก๋ๆ แบบนี้ได้มาจากไหนคะ

            ได้มาจากตัวพระเอกเลยค่ะ เพราะคำว่า Miscreant หมายถึง สารเลว (หัวเราะเสียงดัง) ตอนแรกจะไม่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ จะใช้ชื่อไทยอย่างเดียว แต่รู้สึกว่ามันดูโล่งๆ เลยคิดหาชื่อภาษาอังกฤษมาเพิ่มเติม โดยดูให้เข้ากับบุคลิกโหดๆ ของพระเอก พระเอกก็เลยได้ชื่อนี้มาค่ะ

แล้วชื่อพระเอกกับนางเอกของเรื่องมีที่มาไหมคะ

สำหรับพระเอกชื่อ “ทิม” อันนี้ไม่มีที่มาเลยค่ะ คิดขึ้นเองเลย ส่วนที่ให้นางเอกชื่อ “ไหมฟ้า” เพราะอยากให้ชื่อนางเอกเรื่องนี้ฟังดูไทยๆ บ้าง เพราะเรื่องก่อนๆ ที่บุ๋มแต่งส่วนมากนางเอกจะชื่อฝรั่ง ชื่อไหมฟ้านี่บุ๋มก็นึกเอาเองเหมือนกัน ตอนแรกคิดไว้หลายชื่อมาก เช่น ฟ้าใส แต่เห็นว่าซ้ำกันเยอะ เลยมาลงตัวที่ชื่อนี้แทนค่ะ

บุ๋มมีวิธีคิดชื่อตัวละครแต่ละตัวอย่างไรบ้างคะ

ส่วนมากจะอ่านเจอจากหนังสือ เกมออนไลน์บ้าง ชอบชื่อไหนก็จะลิสต์เอาไว้ แล้วนำมาผสมๆ กันให้กลายเป็นชื่อใหม่ค่ะ

นิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหนคะ

บุ๋มชอบอ่านนิยายแนวเอสเอ็ม แบบโหดๆ หน่อย เลยเกิดความรู้สึกอยากลองเขียนนิยายแนวนี้ในแบบฉบับของตัวเองดูบ้างว่าจะออกมาเป็นแบบไหน

ความยากของนิยายแนวนี้คืออะไรคะ

คือการสร้างตัวละครให้คนอ่านรู้สึกเกลียดมากๆ ในตอนแรก แต่กลับมารักในตอนท้ายให้ได้ค่ะ ตอนแรกที่เขียนลงปุ๊บก็มานั่งไล่อ่านคอมเมนต์เลยนะว่านักอ่านเข้ามาด่าพระเอกไหม ก็เป็นไปตามอย่างที่บุ๋มคาดไว้ค่ะ ด่าเละเลย ซึ่งบุ๋มตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ตั้งใจเขียนให้พระเอกร้ายเพื่อให้คนเกลียด แล้วค่อยให้กลับมารักและสงสารในตอนหลัง ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับนักเขียนมือใหม่อย่างเรามากค่ะ

คิดว่าเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้คืออะไรคะ

คิดว่าน่าจะเป็นความซับซ้อนของเรื่องค่ะ ที่บุ๋มจะใส่ไปเยอะมากกกก (ลากเสียงยาว) แต่อันนี้จะไม่เล่านะคะ ต้องไปติดตามกันเอง ความซับซ้อนก็จะประมาณว่า อะไรที่ทำให้พระเอกเป็นคนแบบนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้เพราะอะไร มันก็จะมีปูมหลังของเรื่องซ่อนอยู่ มีเหตุมีผลมารองรับความเป็นไปของตัวละคร ทำให้นักอ่านรู้สึกอยากรู้ อยากติดตาม

แล้วตัวนางเอก “ไหมฟ้า” ล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง

นางเอกจะเป็นคนดีมากค่ะ และก็เข้มแข็งมากด้วย เพราะไม่อย่างนั้นก็คงจะทานทนความร้ายกาจของพระเอกเราไม่ได้ แต่พอโดนกระทำมากๆ เข้าก็มีอ่อนไหวไปบ้างเหมือนกัน

คิดว่ามีจุดไหนไหมคะที่ทำให้นิยายเรื่องนี้มีความแตกต่างจากเรื่องอื่น

ก็คิดว่าเป็นความซับซ้อนของเรื่องเช่นกันค่ะ เพราะบุ๋มตั้งใจสร้างความซับซ้อนในตัวพระเอกจนผู้อ่านเดาไม่ออกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงเลวขนาดนี้ได้ ทำไมจู่ๆ ถึงจำนางเอกได้แล้วก็ลืมไปอีก โดยไคลแมกซ์จะเกิดตอนกลางเรื่อง และจะเฉลยปมทั้งหมดให้ผู้อ่านเข้าใจด้วย

ฟังดูน่าสนใจมากเลยค่ะ อยากทราบว่าบุ๋มมีเคล็ดลับอย่างไรในการเขียนนิยายคะ

เหมือนอย่างที่บอกไปค่ะ คือการเขียนนิยายเรื่องนึงเราต้องวางพล็อตไว้ก่อน จะนั่ง จะคิด หรือเห็นอะไรมาอยากให้นิยายเราเป็นแบบนั้นบ้างก็จดบันทึกเอาไว้ สมมติเราเห็นคู่รักมาเดินเที่ยวกันแบบนี้นะ เราก็จะจดๆ เอาไว้ให้พระเอกนางเอกมาทำแบบนี้บ้าง

เรียกได้ว่าแรงบันดาลใจมาจากสิ่งอยู่รอบตัว

ใช่ค่ะ เหมือนกับว่าเราต้องรู้จักเฝ้าสังเกต ค้นหา เดินไปเรื่อยๆ เป็นนักเขียนนี่อยู่นิ่งๆ ไม่ได้นะ ไม่งั้นหัวเราจะว่างเปล่า เขียนอะไรไม่ได้ บางทีนะที่บุ๋มเกิดตันคิดอะไรไม่ออก นั่งจ้องโน้ตบุ๊คอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจพับโน้ตบุ๊คแล้วออกไปเที่ยวนอกบ้านเลย กลับมาเราก็ลองมาเขียนเรื่องที่เราไปเที่ยวมา แล้วมาดูว่าอะไรที่มันพอจะใช้กับนิยายเราได้บ้าง ก็มีดัดแปลงบ้างนิดๆ หน่อยๆ ตามแต่ที่เราคิดให้มันเข้ากับพล็อต บางคนที่ไม่ได้วางพล็อตไว้ คิดสดๆ มันก็จะออกทะเลเลย ถ้าวางโครงเรื่องไว้ก็จะไม่มีหลุดออกทะเลค่ะ

รู้สึกยังไงคะที่รู้ว่านิยายจะได้ตีพิมพ์

ดีใจค่ะ ดีใจมาก คือบุ๋มเขียนนิยายตั้งแต่เรียนจบ เขียนมา 2 ปี แล้วก็ช่วยงานที่บ้านไปด้วย ส่วนนิยายก็เอาไปลงเว็บ แล้วพอมีกิจกรรมให้นักเขียนส่งเรื่องไป บุ๋มก็เลยลองส่งไป แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องของเราจะได้ตีพิมพ์ เป็นอะไรที่เหนือความคาดหวังมากๆ

เห็นทีมงานแอบกระซิบบอกว่าตอนที่โทรไปแจ้งข่าว ที่บ้านบุ๋มรู้ข่าวกันทั้งบ้านเลย

ใช่ค่ะ ตอนที่ทีมงานโทรมาบุ๋มอยู่บ้านกับครอบครัวพอดี เลยตื่นเต้นกันทั้งบ้านเลย (ยิ้ม)

การเขียนนิยายให้อะไรกับบุ๋มบ้างคะ

ตอนแรกที่เขียนไม่ได้คาดหวังอะไรค่ะ ด้วยความที่บุ๋มเป็นคนชอบอ่านนิยายมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว ยิ่งมีช่วงเวลาว่างจากการช่วยงานที่บ้านด้วย ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจมาเขียนนิยายของตัวเองดูบ้าง เขียนไปสักสองสามเรื่องก็รู้ได้ว่าทักษะการเขียนของเราพัฒนามากขึ้นค่ะ บุ๋มจะคอยคิดอยู่ตลอดเวลาว่าต่อไปจะเขียนเรื่องอะไรต่อดี เหมือนกับเวลาที่เราขายของ เราก็ต้องคอยตุนของมาขายไม่ให้ขาด นักเขียนก้ต้องคอยคิด เตรียมเรื่องต่างๆ ไว้ วางพล็อตไว้ว่าจะให้เรื่องของเราดำเนินต่อไปอย่างไร อย่าปล่อยให้ความคิดของเราว่างเปล่าค่ะ

มารู้จักกับเว็บไซต์ธัญวลัยของเราได้อย่างไรคะ

ก็เข้ามาอ่านนิยายตามปกติค่ะ แล้วได้ไปเจอกับนิยายในเว็บธัญวลัยจึงลองเข้าไปอ่านดู ปรากฏว่าตอนนั้นติดนิยายอยู่เรื่องนึงค่ะ เลยเข้ามาอ่านตลอดเลย พอหลังจากสมัครสมาชิกได้สักพักเลยเริ่มรู้สึกอยากลงนิยายของตัวเองดูบ้าง พอคิดแบบนั้นก็ลงมือเขียนเลยค่ะ

ผลตอบรับจากนิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นอย่างไรบ้างคะ

ช่วงตอนแรกๆ ที่ลงก็ไม่ค่อยมีคนมาอ่านค่ะ (หัวเราะ) คอมเมนต์ก็น้อยด้วย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันก็เป็นเรื่องแรกที่จู่ๆ เรานึกจะเขียนก็เขียนขึ้นมาด้วย เลยไม่ได้คิดมากอะไรค่ะ แต่พอลงไปสักกลางๆเรื่องก็เริ่มมีนักอ่านเข้ามาติดตาม แสดงความคิดเห็นมากขึ้น

ยอดชาร์ตที่เคยติดอันดับในธัญวลัย?

ก็มียอดคนอ่านสูงสุดค่ะ (จำได้ไหมคะว่าเท่าไหร่) จำไม่ได้แล้วค่ะ มันนานมากกกก (ลากเสียงยาว) แล้วก็ติดชาร์ตยอดเหรียญอันดับหนึ่งค่ะ ทำให้ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นมา

บอกธัญญ่าได้มั้ยว่าประมาณเท่าไหร่เอ่ย

            ได้ค่ะได้ (ยิ้ม) ประมาณสองพันบาทต่อเดือน

แล้วบุ๋มเข้ามาในระบบสนับสนุนของเราได้ยังไงคะ

บุ๋มได้รับการชักชวนจากทีมงานในธัญวลัยค่ะ พอเข้ามาเป็นนักเขียนในระบบสนับสนุนทำให้มียอดคนอ่านติดตามเพิ่มขึ้น ทำให้มีนักอ่านรู้จักเรามากขึ้นทั้งในเว็บธัญวลัยและเพจเฟซบุ๊กที่บุ๋มสร้างขึ้นเอง

คิดว่านักอ่านจะได้รับอะไรจากการอ่านนิยายเรื่องนี้บ้างคะ

ร้องไห้ค่ะ (หัวเราะ) ได้ร้องไห้แน่นอน เพราะขนาดนักเขียนยังเขียนไปร้องไห้ไปด้วยเลย เพราะสงสารนางเอกที่ถูกพระเอกทำร้าย ใครที่อยากได้ความดราม่าแบบเต็มขั้น รับรองว่าอ่านเรื่องนี้แล้วต้องกลั้นน้ำตาไม่อยู่แน่นอน (ยิ้ม)

เป็นไงบ้างคะกับบทสัมภาษณ์แบบจัดเต็มกับนักเขียนแนวดราม่าของเรา ใครที่รู้สึกว่าชีวิตสดใสเกินไป อยากจะมีโมเมนต์เหงาๆ เศร้าๆ เคล้าไปกับไอฝนในเดือนมรสุมเข้าแบบนี้ รีบเข้าไปอ่าน Love Miscreant พันธะร้าย ทำลายรัก (http://www.tunwalai.com/story/76435) ได้ทั้งที่เว็บไซต์และในแอปธัญวลัยเลยค่ะ

โอ๊ย! แย่แล้วๆ แล้วธัญญ่าจะหาใครมาซับน้ำตาให้ล่ะเนี่ย

มีเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยอ่าาา